อธิการบดี ม.รามฯ คนใหม่ ยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด พร้อมจะทุ่มเทการทำงานเพื่อพัฒนา ม.ร. อย่างเต็มที
อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหงคนใหม่ ยืนยันหลังรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งว่า จะทำหน้าที่ในตำแหน่งอธิการบดีให้ดีที่สุด พร้อมทุ่มเททำงานร่วมกับบุคลากรอย่าง “เข้าใจ เข้าถึง และเป็นธรรม” พัฒนามหาวิทยาลัยให้ก้าวหน้าโดยเน้นการสื่อสารที่ถูกต้อง การบริการที่เข้าถึงง่าย และนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของสังคมต่อไป
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง และรับมอบงานในตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง จาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ ประธานกรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัย กรรมการสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.พันธ์เทพ วิฑิตอนันต์ ประธานสภาคณาจารย์ และว่าที่พันตรี ดร.โยธิน ไพรพนานนท์ ประธานสภาข้าราชการ พนักงาน และลูกจ้างมหาวิทยาลัย เป็นสักขีพยาน ตลอดจนมีคณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และตัวแทนนักศึกษา ร่วมแสดงความยินดี เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2564 ณ ห้องประภาศน์ อวยชัย อาคารหอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
โอกาสนี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวในโอกาสรับตำแหน่งว่า ตลอดระยะเวลาที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 เป็นต้นมา ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถในทุกๆ ด้าน พร้อมทั้งได้ร่วมกิจกรรมและงานต่างๆของมหาวิทยาลัยอย่างสม่ำเสมอ เพราะเชื่อมั่นว่าการเข้ามาอยู่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรต้องเรียนรู้วัฒนธรรมองค์กร เรียนรู้งานและปฏิบัติตนให้เป็นประโยชน์กับองค์กรมากที่สุด
“ขอบคุณคณะผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และชาวรามคำแหงทุกคนที่ช่วยนำพามหาวิทยาลัยแห่งนี้ให้เจริญก้าวหน้า ยืนหยัดเป็นมหาวิทยาลัยของสังคมและประชาชนตลอดมา และขอให้ทุกคนช่วยกันร่วมแรงร่วมใจทำงานอย่างเต็มความสามารถ ฝ่าฝันอุปสรรค สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเหตุการณ์การเปลี่ยนแปลงต่างๆของบ้านเมือง เพื่อรามคำแหงต่อไป”
อธิการบดี ม.ร. กล่าวต่อไปว่า ภารกิจที่หนักหน่วงในวันข้างหน้าจะสำเร็จลุล่วงไปได้ก็เพราะทุกชีวิตในรั้วรามคำแหง ช่วยกันทำงานและให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อไปสู่เป้าหมายและความสำเร็จที่ตั้งไว้ จากนี้จะตั้งใจทำหน้าที่ในตำแหน่งอธิการดีให้ดีที่สุด และสานต่อสิ่งต่างๆให้สำเร็จ หากมีข้อปฏิบัติหรือสิ่งใดที่ไม่ถูกต้องเป็นปัญหา ก็จะทบทวนและแก้ไขให้ถูกต้องตามระเบียบราชการ พร้อมทั้งทุ่มเททำงานร่วมกับบุคลากรอย่าง “เข้าใจ เข้าถึง และเป็นธรรม” พัฒนามหาวิทยาลัยให้ก้าวหน้าโดยเน้นการสร้างการรับรู้ สื่อสารที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือน และการบริการที่เข้าถึงง่าย รวมทั้งนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงของสังคมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป และขอฝากนักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหงว่า ก่อนจะตัดสินใจทำสิ่งใด ขอให้คิดให้รอบครอบถี่ถ้วน และมาพูดคุยปรึกษาหารือกันก่อนทำสิ่งต่างๆ และขอให้ช่วยกันสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้กับมหาวิทยาลัย
ที่มา: มหาวิทยาลัยรามคำแหง