
โครงการ พสวท. กับบทบาทการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศ
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ร่วมกับโรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) จัดกิจกรรมพัฒนาศักยภาพนักเรียนโครงการห้องเรียน พสวท. (สู่ความเป็นเลิศ) ผ่านกระบวนการเรียนรู้ “ฟิสิกส์สัประยุทธ์” ระหว่างวันที่ 9-11 มีนาคม 2568 โดยมีนายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงาน
รศ.ดร.ธีระเดช เจียรสุขสกุล ผู้อำนวยการ สสวท. ได้บรรยายพิเศษในหัวข้อ “พสวท. กับการพัฒนาประเทศ” โดยเล่าถึงจุดเริ่มต้นของโครงการ พสวท. ตั้งแต่ปี 2527 และพัฒนาการสำคัญจนกระทั่งได้รับการปรับเปลี่ยนสถานภาพจาก “โครงการ” เป็น “งานประจำ” ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อปี 2540 และกลายเป็นภารกิจหลักของ สสวท. ตั้งแต่ปี 2541
ปัจจุบันมีโรงเรียนศูนย์ พสวท. ระดับมัธยมศึกษาทั้งสิ้น 10 แห่งทั่วประเทศ เปิดรับนักเรียนทุน ม.ปลาย ปีละไม่เกิน 40 คน บทบาทสำคัญของศูนย์โรงเรียน พสวท. คือการสนับสนุนการจัดการเรียนการสอนด้วยหลักสูตรโปรแกรมเสริม พสวท. และหลักสูตรระเบียบวิธีวิจัยที่เข้มข้น การสนับสนุนโปรแกรมการเรียนรู้เทียบมาตรฐานสากล รวมถึงการส่งเสริมให้นักเรียนได้เข้าร่วมกิจกรรมเสริมประสบการณ์ทางวิชาการ เช่น การฝึกงานกับนักวิจัยพี่เลี้ยงในมหาวิทยาลัย การประชุมวิชาการ ค่ายวิทยาศาสตร์ และการทำโครงงานที่เข้มข้น
จากการทำงานร่วมกับเครือข่ายมากว่า 40 ปี ทำให้เกิดระบบเครือข่ายขนาดใหญ่ที่ครอบคลุมการดำเนินงานทั่วประเทศ ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการกำหนดนโยบาย คณะอนุกรรมการ พสวท. เครือข่ายโรงเรียนและครู เครือข่ายมหาวิทยาลัย เครือข่ายหน่วยงานดูแลนักเรียนทุนต่างประเทศ เครือข่ายหน่วยงานปฏิบัติงานตอบแทนทุน และเครือข่ายนักวิจัย/นักวิทยาศาสตร์ทุน พสวท. ทั่วประเทศและทั่วโลก
สสวท. ดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ปี 2564-2580 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้าง พัฒนา และส่งเสริมนักวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน/ประยุกต์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมวิทยาศาสตร์ ที่สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุขและสร้างผลกระทบเชิงบวกให้กับประเทศ
แนวทางการดำเนินงานในอนาคต สสวท. และศูนย์โรงเรียน พสวท. จะร่วมกันพัฒนาศูนย์โรงเรียนด้วยการเสริมความรู้และประสบการณ์ให้ครู สนับสนุนอุปกรณ์ปฏิบัติการ สื่อ และแนวทางการเรียนการสอนใหม่ๆ เพื่อผลิตกำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ที่จะเป็นฐานสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมใหม่มูลค่าสูงของประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับกรอบแนวทางการเรียนรู้ในอนาคตของ OECD