มบส. กำชับทุกหน่วยงานปฎิบัติงาน “สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้”
รศ.ดร.ชลลดา พงศ์พัฒนโยธิน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ( มบส.) กล่าวว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ ตนได้ไปเป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมเทคนิคการสอบทานเอกสารการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย จัดโดยหน่วยตรวจสอบภายใน มบส. เพื่อให้ความรู้แก่คณาจารย์และบุคลากร ได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการส่งเสริมให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยได้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเทคนิคการสอบทานเอกสารการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยให้มีความถูกต้องครบถ้วน รวมทั้งให้คำปรึกษาแก่ผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีความเข้าใจในการสอบทานเอกสารการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งการอบรมครั้งนี้ตนได้มีการนำนโยบายผศ.ดร.คณกร สว่างเจริญ อธิการบดี มบส. เกี่ยวกับการตรวจสอบภายใน มาชี้แจงให้คณาจารย์และบุคลากร มบส.ได้ปฎิบัติตาม รวมถึงมีการแนะนำเทคนิคการสอบทานเอกสารการดำเนินงานของมหาวิทยาลัย และเทคนิคการตรวจสอบรายงานการเงินในภาพรวมด้วย
รศ.ดร.ชลลดา กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาอธิการบดี มบส. ยังได้กำชับให้ทุกหน่วยงานสนองนโยบายรัฐและปฎิบัติตามสโลแกนรัฐ”สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้”อีกทั้งยังเป็นคุณลักษณะพื้นฐานที่ระบุเอาไว้ในมาตรฐานสำหรับข้าราชการที่ดี เพื่อเป็นการแสดงจุดยืนและสร้างความเชื่อมั่นว่าการบริหารประเทศและการให้บริการสาธารณะแก่ประชาชนจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีความรับผิดรับชอบ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน อันเป็นพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล หรือลักษณะของการบริหารงานที่ดี ที่สำคัญการจะตรวจสอบความโปร่งใสในการทำงานของรัฐได้นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ประชาชนจะต้องสามารถเข้าถึงข้อมูลสาธารณะได้อย่างสะดวก ปลอดภัย มั่นใจว่าจะไม่ถูกคุกคามหรือลิดรอนหากเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นด้วย รวมทั้งยังได้สนับสนุนให้สำนักประชาสัมพันธ์และสารสนเทศ ดำเนินงานต่างๆ ตามพ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการด้วยการเปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นเรื่องยกเว้น เพื่อบริการประชาชนให้สามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้
รศ.ดร.ชลลดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในการทำงานยังเน้นเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG Updates ที่ให้ความสำคัญของการมีกฎหมายและนโยบายเพื่อคุ้มครองการเข้าถึงข้อมูลของประชาชน ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ถูกบรรจุเอาไว้ใน SDGs คือ เป้าหมายย่อยที่ 16.10 มีสาระเกี่ยวกับการสร้างหลักประกันว่าสาธารณชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและมีการปกป้องเสรีภาพขั้นพื้นฐาน ตามกฎหมายภายในประเทศและความตกลงระหว่างประเทศ โดยมุ่งเน้นไปที่ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัดที่ 16.10.2 ซึ่งเกี่ยวข้องกับการติดตามให้ประเทศมีและใช้กฎหมาย นโยบายที่รับประกันว่าสาธารณชนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ด้วย