ม.ศรีปทุม เปิดเวทีแลกเปลี่ยน AI สุดยอดนวัตกรรม พลิกโฉมการเรียนรู้สู่ยุคดิจิทัล “AI USE CASE SHARE & LEARN”
มหาวิทยาลัยศรีปทุม จัดโครงการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “AI Use Case Share & Learn” โดยมี ผศ.ดร.ชลธิศ เอี่ยมวรวุฒิกุล ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยศรีปทุม ให้เกียรติเป็นประธานกล่าวเปิดโครงการฯ เพื่อให้คณาจารย์จากคณะต่างๆได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และความรู้เกี่ยวกับการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอน การปฎิบัติงาน และการพัฒนานักศึกษา พร้อมทั้งรายงานผลการดำเนินงานในประเด็นต่างๆ
ภายในงานมีการนำเสนอ AI Use Case Share & Learn ของกลุ่ม Cluster ต่างๆ จำนวน 4 กลุ่ม อาทิ
กลุ่ม Cluster ด้านวิศวะ – เทคโน
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ การใช้ ai ในการสร้างพัฒนาเว็บไซต์
คณะวิศวกรรมศาสตร์
-Automation for Material Processing
-แนวทางการจัดทำบัญชีการตัดเหล็กด้วยวิธีเชิงพันธุกรรม Guidelines for Rebar Cutting Lists to Minimize Rebar Scraps by Genetic Algorithm
-จากคำถามสู่คำตอบด้วย AI
กลุ่ม Cluster บริหารธุรกิจ
คณะบริหารธุรกิจ : การใช้ AI ในการเรียนการสอนคณะบริหารธุรกิจ คณะบัญชี AI For Accountancy
วิทยาลัยโลจิสติกส์และซัพพลายเชน : AI for Logistics:Transforming Supply Chain for the Future Show & Share Use Cases
วิทยาลัยบัณฑิตศึกษา : ใช้ Ai เพื่อใช้ในการทำงานวิจัย พัฒนาไอเดียในการบริหารธุรกิจ การวิเคราะห์ข้อมูล และการพัฒนานำเสนอผลงานที่สร้างสรรค์
กลุ่ม Cluster ด้านธุรกิจบริการ
คณะศิลปศาสตร์ : AI กับการสอนภาษาต่างประเทศของคณะศิลปศาสตร์
วิทยาลัยการบินและคมนาคม : ปัญหาที่พบเจอและการพัฒนาบัณฑิต ว.การบินให้ใช้ AI (อย่างง่าย) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กลุ่ม Cluster ด้านการออกแบบ
คณะนิเทศศาสตร์ : กระบวนการนำ Ai มาปรับใช้ในรายวิชา คณะนิเทศศาสตร์ สาขาภาพยนตร์และสื่อดิจิทัล
คณะดิจิทัลมีเดีย : Ai in digital arts : Integration into Design Process
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ : ใช้ AI ในการทำภาพ 3D ให้เป็นภาพเสมือนจริง และทำให้เป็นหลายๆรูปแบบและหลายๆมุมมอง
ณ ห้อง Convention 1 ชั้น 4 อาคาร 11 มหาวิทยาลัยศรีปทุม กทม.(บางเขน) เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา
ผศ.ดร.ชลธิศ กล่าวว่า “โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในวิสัยทัศน์ ของมหาวิทยาลัยศรีปทุมในการเป็นผู้นำด้านการศึกษาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม โดยการนำ AI มาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนานักศึกษาให้มีความรู้ความสามารถที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงานในยุคดิจิทัล”