สจล. ผนึกกำลัง มหาวิทยาลัยชั้นนำไต้หวัน จัดตั้งสถาบัน KAISM เขตพัฒนาพิเศษ EEC จ. ฉะเชิงเทรา สร้างหลักสูตรตอบโจทย์ความต้องการบุคลากร ด้านSemiconductor และ Smart Electronics ในอนาคต

สจล. ผนึกกำลัง มหาวิทยาลัยชั้นนำไต้หวัน จัดตั้งสถาบัน KAISM เขตพัฒนาพิเศษ EEC จ. ฉะเชิงเทรา สร้างหลักสูตรตอบโจทย์ความต้องการบุคลากร ด้านSemiconductor และ Smart Electronics ในอนาคต

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ( สจล.) รองศาสตราจารย์ ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ พร้อมด้วยผู้บริหาร สจล. ได้ร่วมหารือกับผู้บริหาร นักวิจัยของ Chang Gung University (CGU) และ Ming Chi University of Technology และเยี่ยมชม Semiconductor Lab เพื่อวางแผนหลักสูตร 2 ปริญญา (Double Degree) การแลกเปลี่ยนอาจารย์ นักศึกษา และพบกับนักศึกษา สจล.ที่มาทำวิจัยที่ CGU พร้อมผลักดันให้สจล. เป็นศูนย์กลางสำหรับการ Reskill/ Upskill ทางด้าน Smart Electronics ในอนาคต

นอกจากนี้ยังได้ร่วมมือทางวิชาการกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของไต้หวัน หารือกับผู้บริหารและบุคลากรศูนย์ Academy of Innovative Semiconductor and Sustainable Manufacturing (AISSM) “National Cheng Kung University (NCKU)” ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับในระดับนานาชาติ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโดดเด่นด้านวิชาการ โดยมีการหารือถึงแนวทางการจัดตั้ง KMITL Academy of Innovative Semiconductor Manufacturing (KAISM) ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ในพื้นที่โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) เพื่อสร้างหลักสูตรตอบโจทย์ความต้องการทักษะ Semi-Conductor และ Smart Electronics ตอบสนองความต้องการบุคลากรด้านนี้ของตลาดโลกในอนาคต รวมทั้งการหารือถึงการแลกเปลี่ยนนักศึกษาเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษา สจล. มี Global Citizen Skill นำไปสู่การพัฒนาตัวเอง

รองศาสตราจารย์ ดร.คมสัน มาลีสี อธิการบดี สจล. กล่าวว่า ความร่วมมือกับมหาวิทยาลัย National Cheng Kung University ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของไต้หวัน เพื่อผลักดันหลักสูตรด้าน Smart Electronics นับว่ามีความสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในระดับโลก โดยทั้ง 2 สถาบันจะมุ่งเน้นการออกแบบหลักสูตรเพื่อเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาทักษะความรู้ที่เกี่ยวข้องทางด้าน Smart Electronics และ Semiconductor ทำให้นักศึกษาไทยได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในระดับโลก โดยเฉพาะได้มีโอกาสฝึกฝนจากประสบการณ์จริง สามารถยกระดับศักยภาพกับ การฝึกงานร่วมกับ ภาคอุตสาหกรรม ถือเป็นการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่สำคัญที่จะทำให้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วมีเส้นทางอาชีพที่สอดรับกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้เพื่อเตรียมพร้อมในด้านของการพัฒนาหลักสูตรร่วมกันต่อไปอีกด้วย

ติดตามความเคลื่อนไหวอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ทาง https://www.facebook.com/kmitlofficial และเว็บไซต์ https://www.kmitl.ac.th และติดตามรายละเอียดหลักสูตรที่เปิดสอนได้ที่ https://curriculum.kmitl.ac.th/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-329-8000

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ