“อนุทิน” เปิดงานวันครู ครั้งที่ 68 ประจำปี 2567
“อนุทิน” เปิดงานวันครู ครั้งที่ 68 ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ครูดีสอนดี ศิษย์ดีเรียนดี มีความสุข” ชี้สิ่งที่สำคัญในการทำหน้าที่ของครูให้ยั่งยืนมั่นคง ต่อเนื่อง คือ “การวางฐานคิด” ย้ำครูต้องสร้างลูกศิษย์เป็นคนดี คิดสร้างสรรค์ แบะใช้ภาษาไทยให้ดี
วันนี้ (16 ม.ค. 67) ที่ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาได้จัดพิธีงานวันครู ครั้งที่ 68 ประจำปี 2567 ภายใต้แนวคิด “ครูดีสอนดี ศิษย์ดีเรียนดี มีความสุข” ซึ่งจัดทั้งในส่วนกลางและภูมิภาคพร้อมกันทั่วประเทศ ในรูปแบบผสมผสาน ทั้ง Onsite และ Online โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เดินทางมาเป็นประธานการจัดงานวันครู ตามที่ได้รับมอบหมายจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบคำขวัญวันครู ว่า “ครูวางฐานคิดส่งเสริมศิษย์สร้างสรรค์” และมอบสารเนื่องในโอกาสวันครู สามารถรับชมทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (NBT) เวลา 10.00 น. และ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 เวลา 10.22 น.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมกับทุกท่านที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จในวันนี้ การที่ท่านได้รับรางวัลย่อมสะท้อนได้ว่าท่านเป็นผู้ประพฤติและปฏิบัติดีจนเป็นที่ยอมรับ ขอให้รักษาและพัฒนาคุณความดีไว้ให้ยั่งยืนนานมากที่สุด และจากคำขวัญวันครู ครั้งที่ 68 ของท่านนายกรัฐมนตรี ที่ว่า “ครูวางฐานคิด ส่งเสริมศิษย์สร้างสรรค์” พวกเราทุกคนในที่นี้ต่างรับรู้กันโดยทั่วไปแล้วว่าครู คือ ปัจจัยตั้งต้นที่สำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษา การที่จะมีลูกศิษย์ที่ดีสักคน แน่นอนย่อมต้องมาจากการที่มีครูดี ครูที่เป็นแบบอย่างที่ดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่มีความสามารถในการเรียนรู้และปรับตัวให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงรอบด้าน และมีจิตวิญญาณความเป็นครู
นายอนุทิน กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่สำคัญมากที่จะทำให้การทำหน้าที่ของครูยั่งยืน ยาวนาน มั่นคงและต่อเนื่อง คือ “การวางฐานคิด” ตั้งแต่การวางฐานคิดในวิชาชีพ การวางฐานคิดในการที่จะประกอบวิชาชีพ วางฐานคิดให้ลูกศิษย์เป็นคนดี วางฐานคิดให้ลูกศิษย์เรียนรู้ ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนกระจ่างชัดแจ้งและเข้าใจ ปรับประยุกต์ใช้ในชิวิตจริงได้ และยังเป็นการส่งเสริมศิษย์ให้มีความคิดสร้างสรรค์ แม้ว่าในโลกยุคปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวหน้าไปมากมาย การค้นหาความรู้อาจจะไม่ต้องเรียนรู้จากครูมากนัก เพราะแหล่งเรียนรู้เปิดมีมากมายและไร้ขีดจำกัด แต่สิ่งที่มาทดแทนครูไม่ได้เลย คือ การสร้างให้ลูกศิษย์เป็นคนดี มีความคิดสร้างสรรค์ ต้องอาศัยครูวางรากฐานความคิด เพื่อให้ศิษย์ได้เรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ นอกจากนี้ตนขอยกตัวอย่างครูภาษาไทย เพราะเป็นความท้าทายอย่างมาก วันนี้เราอ่านสื่อต่างๆ จะพบว่ามีการใช้ภาษาไทยผิดเยอะมากจนน่าตกใจ และยิ่งไปกว่านั้น คำพูดคำจาของผู้คน โดยเฉพาะในสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ ก็มีจำนวนมาก ที่ก่อให้เกิดความแตกแยกความขัดแย้งและไม่สร้างสรรค์ในเชิงบ่อนทำลาย และชวนทะเลาะ ยิ่งไปกว่านั้นผลการทดสอบการอ่านของเด็กไทยลดต่ำลง ซึ่งจะพาให้ผลการทดสอบด้านอื่นๆ ตกต่ำลงไปด้วย ดังนั้นหากครูทำให้เด็กเข้าใจภาษาของเราได้ดี ก็จะถ่ายทอดภาษาออกมาได้ดี ทั้งนี้ นักการศึกษาและครูทั้งหลายต้องช่วยกันคิดว่าเราจะแก้วิกฤติกันอย่างไร ต้องทำอย่างไรที่จะวางฐานคิดให้นักเรียนได้เห็นความสำคัญของภาษาและการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ ครูกับเด็กต้องไม่อยู่กันเหมือนคนละโลก ต้องสื่อการสอนที่มีสื่อจากชีวิตจริง ฝึกให้เด็กอ่านเขียนวิเคราะห์ให้มากขึ้น
ขณะที่ พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศธ. กล่าวว่า ขอแสดงความชื่นชมกับผู้ที่ได้รับรางวัลต่าง ๆ การที่ท่านได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติว่าเป็นครูและผู้บริหารดี ที่สังคม เพื่อนร่วมวิชาชีพ และผู้เรียนต้องการ และมองเห็นผลแห่งการกระทำที่ดีงามในตัว ที่ได้มุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ และตั้งใจประพฤติปฏิบัติตนเพื่อพัฒนาผู้เรียนและพัฒนาการศึกษาไทยมาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงการรวมพลังของพวกเรา ที่จับมือไว้ แล้วไปด้วยกัน การเป็นครูในยุคการศึกษาดิจิทัลนั้น ไม่ใช่แค่ทำหน้าที่สอนเพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องเพิ่มความสามารถของตัวเองในการสร้างเนื้อหาการเรียนการสอนในสื่อต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อเป็นช่องทางช่วยเหลือให้ผู้เรียนได้เกิดความเข้าใจและแก้ปัญหา และมีความสุขกับการเรียนด้วย ดังนโยบายเรียนดี มีความสุข ที่สำคัญเราไม่สามารถทราบได้ว่าสื่อออนไลน์ที่ผู้เรียนศึกษามานั้นจะถูกต้องและสร้างสรรค์ ดังนั้นบทบาทของการเป็น “ครู” จึงต้องสร้างแหล่งข้อมูลสารสนเทศให้มากขึ้นผ่านเทคโนโลยี เว็บไซต์ และสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อประโยชน์ต่อผู้เรียนที่จะได้เข้าใจและทบทวน เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ แก้ปัญหา สำหรับการสร้างอนาคตของผู้เรียนต่อไป
พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าวต่อไปว่า ที่สำคัญในวันครูปีนี้ ศธ.ได้เตรียมของขวัญวันครู เพื่อที่จะมอบให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาจากหน่วยงานต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ เช่น สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ปรับหลักเกณฑ์และย้ายครูคืนถิ่น, สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) จัดระบบจับคู่ครูคืนถิ่น (Teacher Matching System:TMS) หลักสูตร E-learning 2 หลักสูตร, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จัดเต็ม 8 หลักสูตร “เติมความรู้ ครูยุคใหม่ ก้าวไปด้วยกัน” ให้ครูโรงเรียนเอกชน เรียนรู้ได้ ทุกที่ ทุกเวลา “Anywhere Anytime”, สำนักงานเลขาธิการคุรุสภาร่วมมือกับภาคเอกชน จัดอบรมหลักสูตรAIS academy ฟรีค่าลงทะเบียน 3,750 บาท และ หลักสูตรความปลอดภัยในโลกอินเทอร์เน็ต และการจัดการ Google Workspace Admin ฟรีค่าลงทะเบียน 2,500 บาท และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาธิการ(สกสค.) โครงการ “โลกสวย ตาใส ข้าราชการครูไทยไร้ต้อกระจก” การตรวจคัดกรองโรคต้อกระจกตาฟรี เป็นต้น
ด้าน ผศ.ดร.อมลวรรณ วีระธรรมโม เลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า กิจกรรมงานวันครูเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าโดย พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ได้มาเป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรพิธีบำเพ็ญกุศลอุทิศแด่ครูผู้วายชนม์ พิธีทำบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลและพิธีบูชาบูรพาจารย์และระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ ที่หอประชุมคุรุสภา โดยมี นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ อ่านโองการอัญเชิญบูรพาจารย์ นายอำนาจ วิชยานุวัติ ครูอาวุโสนอกประจำการ กล่าวนำสวดฉันท์ระลึกถึงพระคุณบูรพาจารย์ และนางกัลยา มาลัยครูอาวุโสในประจำการ นำกล่าวคำปฏิญาณตนของครูและบุคลากรทางการศึกษา มีผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีการปาฐกถาพิเศษ หม่อมหลวงปิ่น มาลากุล ครั้งที่ 7 เรื่อง “ครูดีสอนดี ศิษย์ดีเรียนดี มีความสุข” พิธีมอบรางวัลและประกาศเกียรติคุณผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ของหน่วยงานต่าง ๆ จำนวน 10 รางวัล มีผู้ได้รับรางวัล รวมทั้งสิ้น จำนวน 1,105 คน ประกอบด้วย รางวัลผู้มีคุณปการต่อการศึกษาของชาติ ประจำปี 2567 จำนวน 7คน รางวัลคุรุสภา ประจำปี 2566 จำนวน 27คน และรางวัลและประกาศเกียรติคุณผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา จาก 3 หน่วยงาน 9 รางวัล รวม 1,071 คน ดังนี้ คุรุสภา 7 รางวัล 1,024 คน ได้แก่ รางวัลครูภาษาไทยดีเด่น 3 คน รางวัลครูภาษาฝรั่งเศสดีเด่น 2 คน รางวัลครูผู้สอนดีเด่น 27 คน รางวัลผลงาน “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งนวัตกรรม” 23 คน รางวัลผลงานวิจัยของคุรุสภา 5 คน รางวัล Next Generation Teacher Award 2023 จำนวน 8 คน และรางวัลคุรุสดุดี 956 คน, สกสค. 1 รางวัล ได้แก่ รางวัล “พระพฤหัสบดี” ระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2566 จำนวน 10 คน และ สพฐ. 1 รางวัล ได้แก่ รางวัล “ครูดีในดวงใจ” 37 คน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา
ผศ.ดร.อมลวรรณ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านการเสวนา นิทรรศการวิชาการออนไลน์ และการอบรมผ่านหลักสูตรออนไลน์ ตลอดจนเปิดให้ส่งบัตรคารวะครูออนไลน์ ตักบาตรออนไลน์ โดยเฉพาะก่อนงานวันครูที่มีการเสวนาวิชาการ Online ผ่าน Platform มีข้อหัวที่น่าสนใจมาก และครูสามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังนั้นครูและผู้สนใจสามารถย้อนกลับไปดูการเสวนาออนไลน์ได้ที่ wankru.ksp.or.th และยังมีกิจกรรมหลังงานวันครู ระหว่างวันที่ 17 ม.ค. – 30 เม.ย. 2567 มีการอบรมหลักสูตร Online เพื่อเพิ่มพูนสมรรถนะทางวิชาชีพให้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ขอย้ำผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้รับเกียรติบัตรออนไลน์ตามเกณฑ์ที่กำหนด รวมถึงรับชมนิทรรศการผลงานออนไลน์ของผู้ที่ได้รับรางวัลของคุรุสภา ผู้สนใจดูรายละเอียดการจัดงานวันครูได้ที่เว็บไซต์ของคุรุสภา http://wankru.ksp.or.th รวมถึงร่วมดาวน์โหลดสติกเกอร์ไลน์ “Teachers’ Day” ซึ่งจัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสวันครู เพื่อนำรายได้สมทบทุนมูลนิธิช่วยครูอาวุโส ในพระบรมราชูปถัมภ์ และร่วมระลึกถึงพระคุณครู และแชร์ความรู้สึกดี ๆต่อครูผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของคุรุสภา https://padlet.com/napashbie/16-n2ljziywlcy1s1ma