KKP ร่วมสืบสานมรดกศิลป์ พาคณะนักเรียนชมการแสดงโขน โดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ และเรียน-รู้-เรื่องโขน ณ ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด
กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ร่วมสืบสานมรดกศิลป์ เชิญคณะครูและนักเรียนจากชมรมโขนเยาวชนชายแดนใต้ และนักเรียนชมรมนาฏศิลป์จากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า สมุทรปราการ โรงเรียนสมุทรปราการ และโรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ จำนวน 100 คน เข้าชมการแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอนกุมภกรรณทดน้ำ จัดแสดงโดยมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย นอกจากนั้นได้พาคณะนักเรียนเยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เพื่อชมผลงานศิลปะที่เกี่ยวเนื่องกับโขน ต่อด้วยชมภาพจิตรกรรมฝาผนังฉากกุมภกรรณทดน้ำ บนพระระเบียงวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเยี่ยมชมอาคารเรียน-รู้-เรื่องโขน ศูนย์ศิลปาชีพเกาะเกิด จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเรียนรู้ประวัติความเป็นมาและสร้างแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์ศิลปะโขน
ในการนี้ นางสาวพัทนัย เหลืองตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสำนักสื่อสารองค์กรและการตลาด เป็นผู้แทนนำคณะเยาวชนทำกิจกรรม พร้อมมอบเงินจำนวน 300,000 บาท ให้กับชมรมโขนเยาวชนชายแดนใต้ เพื่อร่วมสนับสนุนกิจกรรมการเรียนการสอนพร้อมการฝึกปฏิบัติการแสดงโขนสัญจร ของเยาวชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสี่อำเภอจังหวัดสงขลา
นางสาวพัทนัย เหลืองตระกูล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ หัวหน้าสำนักสื่อสารองค์กรและการตลาด กล่าวว่า “KKP มุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม สำหรับกิจกรรมพานักเรียนชมโขน และเรียนรู้ศิลปะวัฒนธรรมจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงนี้ เป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมด้านการศึกษาและวัฒนธรรมของ KKP มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เยาวชนไทยมีความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญของวัฒนธรรมไทยอันเป็นรากเหง้าของชาติ ซึ่งถูกจัดขึ้นต่อเนื่อง และหวังว่าจะเป็นการช่วยจุดประกายความรักและความสนใจให้กับเยาวชน เพื่อร่วมกันสืบสานวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่ต่อไป”
นายนนทวัฒ คงเหมาะ ประธานชมรมโขนเยาวชนชายแดนใต้ กล่าวว่า “ชมรมโขนเยาวชนชายแดนใต้ เป็นชมรมที่มุ่งส่งเสริมให้เยาวชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และสี่อำเภอจังหวัดสงขลา ได้เรียนรู้และฝึกฝนการละเล่นโขน ซึ่งเป็นศิลปะการแสดงที่ทรงคุณค่าของชาติไทย โดยการสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทรในครั้งนี้ ช่วยให้เยาวชนได้มีโอกาสชมการแสดงโขนอย่างใกล้ชิด รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็นมาและศิลปะการแสดงโขนจากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาทักษะและความสามารถด้านศิลปะการแสดงของเยาวชนต่อไปในอนาคต”