สยามคูโบต้า ขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน ผ่านกิจกรรม KUBOTA Smart Farmer Camp ปั้นเยาวชนรุ่นใหม่ สู่สมาร์ตฟาร์มเมอร์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 ภายใต้แนวคิด FARM MAKER
ภาคการเกษตรของไทยต้องการเยาวชนเกษตรกรรุ่นใหม่เข้ามาร่วมกันพัฒนาองค์ความรู้ควบคู่กับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ให้การเกษตรของไทยก้าวต่อไปในทิศทางที่ดีขึ้น นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม การทำการเกษตรแบบยั่งยืน และสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับเกษตรกรไทย บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด จึงได้ดำเนินโครงการ KUBOTA Smart Farmer Camp อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 โดยมุ่งส่งต่อความรู้และนวัตกรรมด้านการเกษตรสู่เยาวชนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและยกระดับกระบวนการผลิตทางการเกษตรอย่างยั่งยืน
นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมเพื่อสังคมของสยามคูโบต้านั้น เราได้มุ่งเน้น “เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” พัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้นตามหลักการ Sustainable Development Goals หรือ SDGs 4 ด้าน ได้แก่ ความมั่นคงทางอาหาร การศึกษาของเยาวชน ความเป็นอยู่ที่ดีของสังคม และการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยโครงการ KUBOTA Smart Farmer Camp ถือเป็นหนึ่งในโครงการในด้านความมั่นคงทางอาหาร การยกระดับกระบวนการผลิตทางการเกษตรอย่างยั่งยืนเพื่อเกษตรกร ชุมชน และสังคมและคงไว้ซึ่งการรักษาแหล่งอาหารของโลก ซึ่งจะส่งต่อความรู้ด้านการเกษตรและนวัตกรรมการเกษตรสู่เยาวชนรุ่นใหม่ ตลอดจนการสร้างทัศนคติที่ดีและกระตุ้นให้เยาวชนรุ่นใหม่ใส่ใจการทำอาชีพเกษตรกรรม มีการตระหนักถึงการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำเกษตรแม่นยำอย่างยั่งยืนและรอบด้านมากขึ้น เพื่อเป็นเกษตรกรยุคใหม่ที่ดีในอนาคต สำหรับปีที่ 9 ของ KUBOTA Smart Farmer Camp ถูกจัดขึ้นในธีม “FARM MAKER” ออกแบบฟาร์มได้ตามฝัน ที่ให้น้อง ๆ ได้สร้างฟาร์มในฝันให้เป็นจริง โดยเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและผ่านการลงมือทำด้วยตัวเอง ณ คูโบต้าฟาร์ม จังหวัดชลบุรี เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ซึ่งได้คัดเลือกน้อง ๆ จากผู้สมัครเข้าร่วมกิจกรรมในปีนี้ที่มากถึง 1,180 คน เหลือเพียงจำนวน 100 คน แบ่งเป็นนักศึกษาทั่วไปจำนวน 70 คน และกลุ่มทายาทเกษตรกรคูโบต้าจำนวน 30 คน
เริ่มต้นวันแรกของกิจกรรมด้วย Workshop ไอเดียการออกแบบฟาร์มในฝัน เรียนรู้การบริหารจัดการฟาร์มและออกแบบพื้นที่การทำการเกษตร จากผู้เชี่ยวชาญด้าน Farm Design จาก บริษัทเกษตรอินโน จำกัด และเรียนรู้ Smart Farming Experience KUBOTA FARM สัมผัสนวัตกรรมการเกษตรครบวงจร การใช้นวัตกรรม IoT และเทคโนโลยีเครื่องจักรกลการเกษตรในพื้นที่ฟาร์มสร้างประสบการณ์เกษตรสมัยใหม่ ณ คูโบต้าฟาร์ม ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างสนุกสนาน
วันต่อมาน้อง ๆ ได้เรียนรู้การทำการเกษตรแบบยั่งยืนที่ให้ความสำคัญกับสมดุลของระบบนิเวศ โดยใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม จากนายชารีย์ บุญญวินิจ หรือ ลุงรีย์ เจ้าของฟาร์มลุงรีย์ ที่มาให้ความรู้กับน้อง ๆ ในเรื่องของการจัดการทรัพยากรแบบหมุนเวียนและการจัดการขยะอาหารแปรเป็นปุ๋ย นอกจากนี้น้อง ๆ ยังได้ชิมอาหารคอร์สโอมากาเสะ อาหารตามใจเชฟ ภายใต้คอนเซป Omakahed ที่มีวัตถุดิบเป็นเห็ดจากการเพาะเอง มาปรุงเป็นอาหารสไตล์ญี่ปุ่นอีกด้วย
ส่วนวันที่สามเนื้อหาของกิจกรรมค่อนข้างเข้มข้น โดยน้อง ๆ ได้เล่นเกมส์จำลองการวางแผนลงทุนด้านการเกษตร FARM MAKER ภารกิจออกแบบฟาร์มในฝัน ที่ต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์ ความรู้ในการคำนึงถึงประสิทธิภาพ ความยั่งยืน นวัตกรรม และการบริหารความเสี่ยง ก่อนปิดท้ายกิจกรรมในวันสุดท้ายด้วยการให้น้อง ๆ ได้นำเสนอไอเดียฟาร์มในฝันของตัวเองที่วางไว้
“โครงการ KUBOTA Smart Farmer Camp 2023 ถือเป็นอีกสิ่งที่คูโบต้าภาคภูมิใจ เพราะเรามุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจและสร้างประสบการณ์ด้านการเกษตร รวมถึงความทรงจำที่ดีให้กับน้อง ๆ คนรุ่นใหม่ ในการเติบโตไปเป็น Smart Farmer ที่นำความรู้ความสามารถมาใช้พัฒนาภาคการเกษตร พร้อมทั้งเกิดเป็นเครือข่ายที่เชื่อมโยงเกษตรกรรุ่นใหม่สู่การต่อยอดในการทำงานและสานต่ออาชีพเกษตรกรของครอบครัว เพื่อร่วมขับเคลื่อน Ecosystem ของภาคการเกษตรให้เติบโตต่อไปในอนาคต” นางวราภรณ์ กล่าวปิดท้าย
นายณัฐพล จงสู่วิวัฒน์วงศ์ หรือ น้องเมฆ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะนวัตกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยรังสิต เล่าว่า จากการเข้าร่วมโครงการในนี้รู้สึกสนุกมาก อีกทั้งยังได้ความรู้และคอนเนคชั่นกลับไปมากมาย ส่วนตัวมองว่าการเกษตรเป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่สำคัญ ถ้านำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้จะสามารถช่วยลดแรง ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิตและราคาได้ดีขึ้น โดยมองถึงตัวเองในอนาคตว่าจะสามารถนำเทคโนโลยีเกษตรแม่นยำมาปรับใช้ เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี ปลอดภัย ลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองและสร้างมลพิษกับโลกให้น้อยที่สุด
นายเจษฎาพร ทองจุฑา หรือ น้องบีม นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เล่าว่า รู้สึกตื่นตาตื่นใจกับกิจกรรมในครั้งนี้มาก ได้ทดลองขับรถขุด รถเกี่ยวนวดข้าวและเครื่องจักรกลการเกษตรใหม่ๆ ที่ทำให้รู้ถึงความแตกต่างระหว่างการใช้แรงงานคนกับเครื่องจักร และสนุกกับเพื่อน ๆ ในการออกแบบฟาร์มตามโจทย์ที่ได้รับมา ได้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญที่สามารถไปปรับใช้กับไร่มันสำปะหลังและอ้อยของที่บ้าน และนำไปต่อยอดการทำสวนผลไม้ เพื่อสานต่ออาชีพเกษตรกรในอนาคต เพราะทุกวันนี้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยภาคการเกษตรให้ทำงานได้ง่าย มีความแม่นยำ ประหยัดทั้งเวลา แรงงาน ทำให้การเกษตรไม่ใช่เรื่องเหนื่อยและลำบากอีกต่อไป
นายชินกฤต อรุณธีรพจน์ หรือ น้องโอห์ม นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สถาบันนวัตกรรมบูรณาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เล่าว่า เป็น 4 วันที่สนุกมากๆ เพราะได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องของการเกษตรที่ค่อนข้างไกลตัว ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมจากคูโบต้าฟาร์มที่สามารถนำไปปรับใช้กับ Urban Farming System ที่กำลังสนใจอยู่ในขณะนี้ กิจกรรม Workshop Farm Design ที่ได้ออกแบบฟาร์มร่วมกับเพื่อน ๆ จนฉีกกฎออกมาเป็น Start-Up เพื่อช่วยเสริมภาคเกษตรของไทยในแง่ของการวิจัยและการพัฒนาธุรกิจ จากความคิด วิสัยทัศน์และความถนัดของเพื่อน ๆ แต่ละคน ทำให้ได้เปิดโลกกว้างขึ้น สามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างก้าวกระโดดจากการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
นางสาวปภัสสร สุวรรณคาม หรือ น้องพราว นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะทรัพยากรธรรมชาติและอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร เล่าว่า ความรู้ที่ได้รับในการทำกิจกรรมในครั้งนี้สามารถไปปรับใช้กับสวนของที่บ้านได้ในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นการปลูกพืชหมุนเวียน การปรับปรุงดิน การเลี้ยงสัตว์ เทคโนโลยีทางการเกษตรต่างๆ ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุน แรงงาน โดยตั้งใจจะนำประสบการณ์ที่ได้รับไปทำธุรกิจด้านการเกษตรของตัวเอง ควบคู่ไปกับการเป็นเกษตรอำเภอ เพื่อช่วยเหลือและให้ความรู้กับเกษตรกรในพื้นที่บ้านเกิด
นายชิษณุพงศ์ วาณิชย์เจริญ หรือ น้องเซฟ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เล่าว่า ภาคการเกษตรเป็นส่วนสำคัญของประเทศไทย การจะทำให้เกษตรกรเข้าถึงเทคโนโลยีได้จึงจำเป็นจะต้องคัดสรรเทคโนโลยีที่เข้าถึงง่ายและต้นทุนไม่สูง เหมือนคูโบต้าฟาร์มที่แบ่งปันความรู้เรื่องนวัตกรรมเกษตรให้คนได้เข้าถึงง่ายขึ้น จากการร่วมกิจกรรมทำให้ได้ความรู้ทางการเกษตรแบบเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็นเกษตรอินทรีย์ เทคโนโลยีและเครื่องจักรกลทางการเกษตรที่ได้ทดลองใช้ด้วยตัวเอง นับว่าเป็น 4 วันที่คุ้มค่า ได้ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อน ๆ ที่หลากหลาย สามารถไปต่อยอดในอาชีพที่เกี่ยวกับภาคการเกษตรในอนาคต
และนี่คือส่วนหนึ่งของแนวคิดและศักยภาพของเยาวชนเกษตรกรรุ่นใหม่ ซึ่งสยามคูโบต้าพร้อมที่ให้การสนับสนุนและส่งเสริมศักยภาพในการทำเกษตรยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างเป็นเครือข่ายของกลุ่มเกษตรกรที่เข้มแข็งที่จะมาช่วยขับเคลื่อนภาคการเกษตรของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ที่มา: นิโอ ทาร์เก็ต