ม.มหิดล คิดค้นนวัตกรรมป้องกันและแจ้งเตือนช้างป่าเข้าใช้พื้นที่เกษตร

ม.มหิดล คิดค้นนวัตกรรมป้องกันและแจ้งเตือนช้างป่าเข้าใช้พื้นที่เกษตร

ด้วยสำนึกในสิ่งแวดล้อมที่ต้องการให้คนและป่าอยู่ร่วมกันอย่างผาสุกแต่ธรรมชาติของป่าต่างจากธรรมชาติของมนุษย์ จึงจำเป็นต้องมีการจัดระเบียบและบริหารจัดการที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพ

ข้อมูลจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ชี้ว่า “ช้างป่า” จัดเป็นสัตว์ป่าที่อยู่ในภาวะใกล้สูญพันธุ์ เนื่องจากการขยายพื้นที่ของมนุษย์ ด้วยความเป็นสัตว์ที่มีขนาดใหญ่และต้องการผืนป่าขนาดใหญ่เพื่อการดำรงชีวิต ทำให้มักพบปัญหาช้างป่าบุกรุกที่ทำกินของชาวบ้าน จนทำให้เกิดการศึกษาวิจัยเพื่อลดปัญหาการกระทบกระทั่งระหว่างมนุษย์และช้างป่าอย่างแพร่หลายในเวลาต่อมา

รองศาสตราจารย์ ดร.รัตนวัฒน์ ไชยรัตน์ อาจารย์ประจำคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้เปิดเผยถึงธรรมชาติของช้างป่าว่า แต่ละเชือกกินอาหารในปริมาณที่มากถึง 250 – 300 กิโลกรัมต่อวัน จึงส่งผลกระทบสูงเมื่อเข้าบุกรุกพื้นที่เกษตรของชุมชน

จากการลงพื้นที่วิจัยในเขตภาคตะวันออกของประเทศไทยนำทีมโดย รองศาสตราจารย์ ดร.รัตนวัฒน์ ไชยรัตน์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจาก กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์วิจัย และนวัตกรรม (สกสว.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ที่ผ่านมา ได้นำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรมซึ่งนับเป็นความภาคภูมิใจในฐานะ”ปัญญาของแผ่นดิน” ตามปณิธานของมหาวิทยาลัยมหิดลเพื่อการแก้ไขปัญหาช้างป่าบุกรุกพื้นที่เกษตร จำนวน 2 ชิ้น

นวัตกรรมชิ้นแรก ได้แก่ การจัดทำแบบจำลองการเคลื่อนที่ของช้าง เพื่อหาแนวทางที่ปลอดภัยระหว่างช้างป่าและชุมชนเพื่อประโยชน์สำหรับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในการดูแลช้างป่า และพื้นที่อนุรักษ์

ส่วนนวัตกรรมอีกชิ้นเป็นการวางระบบเซนเซอร์ซึ่งใช้แสงเลเซอร์เพื่อการแจ้งเตือนในระยะปลอดภัย 50 – 100 เมตรผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งยังคงต้องมีการพัฒนาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของอุปกรณ์ก่อนการนำไปใช้จริง

โดยงานวิจัยดังกล่าวเพิ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการระดับนานาชาติ “Diversity” และจะได้ต่อยอดศึกษาเพิ่มเติมเพื่อการวิเคราะห์ตัวแปรที่เกี่ยวข้องต่างๆ ที่ทำให้ช้างป่าต้องออกมาสู่ชุมชน เพื่อการสร้างมาตรการป้องกันดูแลที่ครอบคลุม และเพิ่มความมั่นใจให้กับชุมชน

สำหรับประชาชนทั่วไปที่ชื่นชอบการเที่ยวป่า รองศาสตราจารย์ ดร.รัตนวัฒน์ ไชยรัตน์ แนะนำว่าไม่ควรอยู่นอกเขตพื้นที่ปลอดภัย โดยปกติช้างป่าจะไม่ทำร้ายมนุษย์ถ้าไม่มีอาการตกใจ หูกาง-หางชี้ และหากต้องเผชิญกับช้างป่า ไม่ควรเข้าใกล้ หรือให้อาหาร เนื่องจากส่วนใหญ่ยังไม่คุ้นชินกับมนุษย์

ขอเพียงมนุษย์และช้างป่าอยู่ร่วมกันด้วยความเข้าใจ ซึ่งข้อมูลจาก กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ยังชี้ให้เห็นด้วยว่า ช้างป่ามีความสำคัญต่อระบบนิเวศ การอนุรักษ์ถิ่นอาศัยของช้างป่า จึงเป็นการอนุรักษ์ถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าชนิดอื่นๆ ในระบบนิเวศไปด้วยในขณะเดียวกัน

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่www.mahidol.ac.th

ที่มา: มหาวิทยาลัยมหิดล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ