คณะการออกแบบและสถาปัตย์ ม.ศรีปทุม สานต่อ “คุณค่า” วัฒนธรรมชุมชนตลาดพลู-วงเวียนใหญ่ เชื่อมคน 2 รุ่น
กิจกรรมสร้างสรรค์นำเสนอหัวสิงโตผ่านมุมมองใหม่ เป็นไฮไลน์ให้จุดถ่ายภาพแบ่งบันเรื่องราวบนโลกออนไลน์ มิติใหม่ “ตลาดพลู-วงเวียนใหญ่” สานต่อ “คุณค่า” วัฒนธรรมเชื่อมคน 2 รุ่นในงาน Bangkok Design week ด้วยนวัตกรรมมุมมองใหม่สู่ใจ “คนเจนใหม่”
อาจารย์มาร์ค – ผศ.ดร. ณัฐวุฒิ อัศวโกวิทวงศ์ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะการออกแบบและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ผู้อยู่เบื้องหลังแนวคิดการออกแบบนิทรรศการตลาดพลู-วงเวียนใหญ่ ในงาน Bangkok Design week 2023 เล่าว่า คณะการออกแบบและสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เป็นมหาวิทยาลัยเอกชนรายเดียวที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมในงาน Bangkok Design week 2023 ในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันย่านตลาดพลู-วงเวียนใหญ่ มีการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน เมื่อรถไฟฟ้าสร้างเสร็จ ความเจริญเข้ามาเยือน โครงการที่อยู่อาศัยเกิดใหม่ เช่น คอนโดมีเนียม บ้านจัดสรร เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีผู้อยู่อาศัยใหม่ ๆ เข้ามาในพื้นที่ เกิดการผสมผสานของคนกลุ่มใหม่นอกพื้นที่กับผู้อยู่อาศัยดังเดิมในชุมชน มีความไม่เข้าใจเรื่องวิถีชีวิตและวัฒนธรรมดังเดิมของคนเก่าที่อยู่เดิมในชุมชนตลาดพูลมายาวนาน เกิดเป็นโจทย์ให้ขบคิดหาวิธีเพื่อให้สองวิถีชีวิต คนใหม่ กับคนเก่าสามารถอยู่ร่วมกันได้ในพื้นที่เดียวกันอย่างมีความสุข พร้อมกับการบอกเชิญชวนให้คนรุนใหม่ ชาวต่างชาติ เข้ามาสัมผัสมรดก วัฒนธรรมของชุมชนเก่าแก่ย่านตลาดพลู-วงเวียนใหญ่ อีกหนึ่งเสน่ห์ของเมืองไทยผ่านมุมมองใหม่
ด้วยโจทย์นี้ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้จัดนิทรรศการ Bangkok Design week 2023 ในคอนเซ็ปต์ ‘เมืองมิตรดี’ เราได้ตีโจทย์ นำต้นทุนทางวัฒนธรรมที่เป็นคุณค่าในการต่อยอดสร้างมูลค่าให้กับชุมชน โดยลงพื้นที่เก็บข้อมูลเริ่มระดมสมองคุยกันในคณะฯ ทั้งคนรุ่นเก่าคืออาจารย์ และคนรุ่นใหม่คือนักศึกษาในคณะฯ มีการจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ ที่สามารถช่วยให้การสื่อสารออกไปสร้างความเข้าใจให้คนเก่าและคนใหม่ในพื้นที่ คงไว้ซึ่ง ‘ต้นทุนทางวัฒนธรรม’ ของชุมชนตลาดพลู ซึ่งนับเป็น คุณค่า ที่ต้องต่อยอดออกไปให้ทันสมัยผ่านนิทรรศการที่จัดออกมา 2 ส่วน คือ ในพื้นที่ตลาดพลู-วงเวียนใหญ่ เพื่อสร้างความเข้าใจคุณค่าของวิถีชีวิตของคนในพื้นที่ซึ่งอยู่อาศัยมานาน
แกนความคิดเชิงออกแบบทำเพื่อสร้างนวัตกรรม ได้ถูกแบ่งไว้ 3 ส่วน ส่วนแรกทำให้คนรู้จักและสัมผัสของดีย่านตลาดพลู-วงเวียนใหญ่ ด้วยการเปิดพื้นที่ให้คนได้สัมผัสจากการลงมือทำผ่านกิจกรรมลักษณะทำเวิร์คช็อป เช่น การจัดกิจกรรมระบายสีหัวสิงโต เนื่องจากในย่านนี้มีคณะเชิดสิงโตที่มีชื่อเสียง กิจกรรมเรียนรู้เรื่องการทำว่าว เนื่องจากย่านนี้มีแชมป์การเล่นว่าว และการเปิดพื้นที่โรงสีเพื่อให้เรียนรู้เรื่องเส้นทางการค้าข้าวในอดีต
ส่วนที่ 2 คือการหาความเป็นไปได้ใหม่ โดยเราอยากเห็นว่าในย่านเดิมที่มีคนใหม่เข้ามาจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ด้วยการใช้นิทรรศการนี้ในการสื่อสารรับความคิดเห็นของคนเดิมว่า อยากเห็นย่านนี้ในอนาคตแบบไหน โดยใช้การสื่อสารผ่านศิลปะเป็นตัวกระตุ้นความคิด การใช้แสงสีเพิ่มความสดใส มองเห็นง่าย เช่น บริเวณศาลเจ้า นำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ ออกแบบแผนที่ย่านตลาดพลู-วงเวียนใหญ่ ให้เข้าถึงงาน และ ในส่วนที่ 3 คือการเปิดพื้นที่ให้กลุ่มคนในชุมชนที่เป็นพลังขับเคลื่อนของย่านนี้ เข้ามาร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมองว่าจะทำอย่างไรกับย่านที่อยู่อาศัยที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลง
“ความคิดสร้างสรรค์”ต่อยอดคุณค่า สร้างนวัตกรรมใหม่
อาจารย์มาร์ค เล่าต่อว่า การที่นักศึกษาของคณะได้เข้าร่วม Bangkok Design week ทำให้นักศึกษาได้ลงสนามประสบการณ์จริง เรียนรู้วิธีคิด ลงมือทำ การแก้ปัญหา การใช้ความคิดสร้างสรรค์ สามารถนำไปปรับใช้พร้อมลงสนามการทำงานจริงหลังจากเรียนจบ ปูทางให้พร้อมกระโดดเข้าสู่สนามการทำงานได้อย่างรวดเร็ว คณะฯ เน้นการสอนให้นักศึกษาตีโจทย์สินค้าหรือบริการที่ได้รับ และสื่อสารออกมาในรูปแบบงานคิดสร้างสรรค์ เน้นสร้างคุณค่าและมูลค่าใหม่จากสินค้าหรือบริการเดิม
หัวใจสำคัญของ Design Thinking คือ การนำความคิดสร้างสรรค์มาผ่านกระบวนการออกแบบ ด้วยการนำเอา”คุณค่า”มรดกวัฒนาธรรมชุมชน มาต่อยอดเป็นนวัตกรรม ทั้งที่ไม่ใช้เทคโนโลยี และใช้เทคโนโลยีเขามาเป็นตัวสนับสนุน ผ่านการนำเสนอรูปแบบใหม่ เช่น นักศึกษามีประสบการณ์สร้างมูลค่า ว่าวปักเป้า หัวสิงโต โมเดลไม้ ของดีชุมชนตลาดพูล ด้วยการถอดประสบการณ์ความชำนาญ ความปราณี เช่น ออกแบบเป็นเสื้อ โมเดลจำลอง หรือจัดกิจกรรมเวิร์คช็อปให้คนได้มีส่วนร่วมและตระหนักถึงมูลค่าทางภูมิปัญญา จากเดิม ว่าว ขายสปอร์ตเซอร์ หัวสิงโต รับจ้างเชิดตามงาน โมเดลไม้ประกอบแล้วเข็นขายตามงานต่างๆ
ในมุมของสังคมเกิดการตระหนักและมองเห็น สัมผัส ถึงคุณค่าจากวิถีชีวิตแบบเดิมผ่านมุมมองและรูปแบบใหม่ เราไม่อยากเสียต้นทุนทางวัฒนธรรมไปกับการเปลี่ยนแปลงของเวลาจากการเปลี่ยนของช่วงอายุคน เพราะเอกลักษณ์เกิดขึ้นได้ต้องใช้เวลานาน เราจะทำอย่างไรให้การเปลี่ยนแปลงของเมืองกับวิถีชีวิตเดิมและผู้คนเติบโตไปพร้อมกันได้ โดยเราคาดหวังว่าการถ่ายทอดแนวคิดนี้จะเป็นฐานเศรษฐกิจในอนาคตให้กับย่านนี้ได้ ซึ่งเป็นในรูปแบบใหม่ที่เข้ากับยุคสมัยซึ่งผู้คนที่อยู่อาศัยเดิมในพื้นที่สามารถใช้คุณค่าจากทักษะหรือประสบการณ์ส่งต่อไปยังคนรุ่นใหม่ ๆ
“อนาคตอาชีพของงานความคิดเชิงออกแบบ จะจำเป็นต่อทุกบริษัท คล้ายกับการที่บริษัทจะต้องมีฝ่ายกฎหมาย ปัจจุบันสังคมมีความเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ธุรกิจที่จะอยู่ได้ต้องปรับตัวให้ทันและจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในการปรับตัวเพื่อสร้างความยั่งยืนให้ธุรกิจ การติดอาวุธกระบวนการคิดเชิงออกแบบ นักคิดนวัตกรรม ช่วยให้นักศึกษาที่จบจากคณะออกแบบและสถาปัตยกรรม ของเรากลายเป็นที่ต้องการในตลาดในทุกสายอาชีพ มีค่าตัวสูง และยังมีความพร้อมที่จะก้าวออกไปสร้างธุรกิจของตนเอง หรือต่อยอดธุรกิจครอบครัวด้วยสร้างนวัตกรรม เพิ่มมูลค้าทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ ๆ” อาจารย์มาร์ค เล่า
และนี่ก็เป็นที่มาของการออกแบบและสถาปัตยกรรมศาสตร์ เดิมชื่อว่า คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยศรีปทุม พร้อมกับเปิดหลักสูตรใหม่ ‘Design Innovation’ เพื่อดึงเอาจุดแข็งในการสร้างนวัตกร ผ่านการปลูกฝังรากฐาน Design Thinking ทักษะด้านการออกแบบที่มาพร้อมความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรมและเทคโนโลยี รวมถึงความสามารถในการบริหารจัดการ เพื่อปรับเปลี่ยนและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจให้ทันกับการถูกดิสรัปจากความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเร็วจากหลายมิติ
กิ๊ฟ – โชติรส จันเอก นักศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งตอนนี้ทำงานอิสระด้วยการรับออกแบบ เล่าถึงประสบการณ์บนสนามจริงให้ฟังว่า การได้เข้าร่วมทำงานกับคณะฯ ในการออกแบบนิทรรศการของ Bangkok Design week ได้รับประสบการณ์ที่ต่างออกไปจากการเรียนในห้องเรียนเพียงอย่างเดียว ได้เรียนรู้งานจากพื้นที่จริง เดินลงพื้นที่คุยกับคนในชุมชน ได้รู้ปัญหาและสิ่งที่ชุมชนต้องการ ทำให้นำโจทย์ที่ได้มาคิดต่อยอดเพื่อนำเสนอออกมาผ่านนิทรรศการ
“ได้นำระบบวิธีคิดที่คณะสอนมาใช้ในงานจริงและได้เรียนรู้การทำงานกับคนที่หลากหลาย การเรียนสถาปัตยกรรมสามารถต่อยอดออกไปได้หลายอาชีพ ไม่ใช่แค่ออกแบบบ้านเพียงอย่างเดียว แต่สามารถปรับไปสู่การนำระบบคิดสร้างสรรค์ไปใช้ได้กับทุกงาน” อดีตนักศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์เล่า
มิ้ม – พัชรินทร์ เครือศรี นักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งตอนนี้ทำงานอิสระด้านการออกแบบ เขียนแบบ เล่าว่า การทำงานในนิทรรศการตลาดพลู เริ่มจากการคัดเลือกสถานที่สำคัญที่มีจุดเด่นในย่าน แล้วใช้วิธีเดินสำรวจเพื่อเก็บข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้อง หลังจากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาเรียบเรียงเพื่อนำเสนอในรูปแบบดิจิทัลบนแอปพลิเคชันด้านท่องเที่ยวเพื่อแนะนำให้คนในพื้นที่ได้เข้าถึงความสำคัญและคุณค่าของย่านตลาดพลู ส่วนงานออกแบบในพื้นที่จะมีการแลกเปลี่ยนความคิดในทีม ทำงานเหมือนระบบงานของบริษัทจริง ๆ
สำหรับสิ่งที่ได้จากโครงการนี้คือได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ จากหลายฝ่ายที่ต้องทำงานด้วย ไม่ว่าจะเป็นชุมชนเดิม การทำความเข้าใจกับความต้องการของคนที่เข้ามาอยู่ใหม่ ซึ่งจะต้องเก็บข้อมูลอย่างละเอียดและถูกต้องในการออกแบบ 1 ชิ้นงาน ซึ่งทำให้ได้กระบวนความคิดในการทำงานและสามารถนำไปเป็นวิธีคิดในการทำงานอื่น ๆ ได้ด้วย
ที่มา: มหาวิทยาลัยศรีปทุม