แสนสิริ และ กสศ. ฉายภาพความสำเร็จปีแรก ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ มอบความช่วยเหลือเด็ก จ.ราชบุรี ให้อยู่ในระบบการศึกษา ได้รวมกว่า 907 คน
- แสนสิริ และ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ประมวลความสำเร็จปีแรกของโครงการ ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ มอบความช่วยเหลือเด็กจังหวัดราชบุรีให้อยู่ระบบการศึกษารวม 907 คน ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
- สรุปรวบ 5 กิจกรรมความคืบหน้า ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในจังหวัดราชบุรี ตั้งแต่ วาง Roadmap และการบริหารจัดการ พร้อมกับช้อนเด็กเสี่ยงหลุดจากระบบ และจัดตั้งโครงการพัฒนาการเรียนรู้และคุณภาพชีวิตเพื่อเด็กนอกระบบ, โครงการ 3 พลังอาสา จังหวัดราชบุรี นวัตกรรมกลไลอาสาสมัคร และ การระดมความร่วมมือพนักงานและลูกบ้านแสนสิริ ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยส่งเสริมโอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่ดีอย่างเสมอภาค
- เผยต้นปี 66 จ่อต่อยอดความช่วยเหลือสู่เด็กนอกระบบ วางหลักสูตร 1 โรงเรียน 3 ระบบ เติมเต็มวิชาการ วิชาชีพ วิชาชีวิต ลุยกิจกรรม ตอบโจทย์ ‘โมเดลพื้นที่ชีวิตเด็กนอกระบบราชบุรี’ ควบคู่กับขยายขอบเขตงาน Zero Dropout ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและทุกพื้นที่ในจังหวัด รุกหน้าสู่เป้าสูงสุด เด็กจังหวัดราชบุรีหลุดนอกระบบต้องเป็น “ศูนย์” ใน 3 ปี
นายสมัชชา พรหมศิริ Chief of Staff ฝ่ายการตลาดดิจิตอลและสื่อสารองค์กร บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานของโครงการ ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ ในปีที่ 1 เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ โดยแสนสิริทำงานกับ กสศ. อย่างใกล้ชิด เพื่อติดตามผลงาน ร่วมประสานกลไกท้องถิ่นและพื้นที่ ระดมความร่วมมือค้นหาและช่วยเหลือเด็กกลุ่มเสี่ยงที่จะหลุดจากระบบการศึกษาได้เดินหน้าเรียนต่อ รวมทั้งติดตามเด็กที่หลุดจากระบบการศึกษาได้กลับเข้ามาอยู่ในระบบการศึกษาเพื่อเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ตลอดจนได้จัดกิจกรรมเพื่อสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาของประเทศไทยและสร้างแรงกระเพื่อมในกลุ่มพนักงาน พันธมิตร ลูกบ้านแสนสิริและสังคม
“ยิ่งไปกว่านั้น แสนสิริได้มีส่วนร่วมในการช่วยสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาไทย สร้างแรงกระเพื่อมในกลุ่มพนักงานและลูกบ้านแสนสิริ ผ่านการจัดกิจกรรมตลอดทั้งปี ตั้งแต่ การรับบริจาคหนังสือจากพนักงานและลูกบ้านแสนสิริได้กว่า 2,500 เล่ม พร้อมยกทัพพนักงานแสนสิริและพนักงานสีทีโอเอลงพื้นที่ซ่อมแซมห้องสมุดให้กับโรงเรียนอนุบาลสวนผึ้ง ตลอดจนบริจาคคอมพิวเตอร์สภาพดีจากแสนสิริให้กับโรงเรียน 15 แห่งในอำเภอสวนผึ้ง และจัดกิจกรรมแนะแนวอาชีพให้กับนักเรียนใน 5 โรงเรียน รวมจำนวน 80 คน รวมทั้งจัดกิจกรรม Giving Mission ภารกิจบริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวันเด็กในโรงเรียนในอำเภอสวนผึ้ง โดยมีพนักงานและลูกบ้านแสนสิริ ร่วมบริจาคใน 1 เดือน รวมกว่า 263,000 บาท และล่าสุด ได้สนับสนุนให้น้อง ๆ เสริมสร้างประสบการณ์และทักษะอาชีพ ด้วยการเข้าร่วมจัดบูธขายอาหารและเครื่องดื่มในแทศกาลดนตรีแห่งความสุข Season of Love Song ครั้งที่ 12 ที่จัดขึ้นในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี” นายสมัชชา กล่าว
ดร. ไกรยส ภัทราวาท ผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) กล่าวว่า “ในปี 2565 เราคิกออฟโครงการกับกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ที่มีปัจจัยสนับสนุน เช่น อำเภอสวนผึ้ง อำเภอจอมบึง และอำเภอบ้านคา มอบความช่วยเหลือเด็กจังหวัดราชบุรีให้อยู่ระบบการศึกษา รวมได้กว่า 907 คน นอกจากนี้แล้วทาง กสศ. ประสบความสำเร็จในการวางแผน Roadmap ระยะ 3 ปี รวมทั้งวางกลไลบริหารจัดการ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนงานผ่านกลไกพื้นที่การศึกษา (Area-based Education) ที่จะส่งเสริมการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วนในพื้นที่ในระยะยาว เกิดระบบเชื่อมโยงข้อมูล และส่งต่อระหว่างโรงเรียน สถานศึกษาสายอาชีพ เพื่อสนับสนุนโอกาสทางการศึกษาในระดับสูง ซึ่งไม่เพียงเด็กรุ่นปัจจุบันเท่านั้นที่จะได้ประโยชน์ แต่จะส่งผลกระทบในยั่งยืนต่อเด็กรุ่นสู่รุ่น ควบคู่ไปกับการช่วยเหลือจัดสรรทุนการศึกษาให้แก่เด็กเสี่ยงหลุดจากระบบ ครอบคลุมเด็กในช่วงชั้นรอยต่อ (ป.6 และ ม.3) และเด็กที่อยู่ในภาวะวิกฤตทางการศึกษาให้ยังคงอยู่ในระบบ รวมทั้งการจัดตั้งโครงการพัฒนาการเรียนรู้และคุณภาพชีวิตเพื่อเด็กนอกระบบ และโครงการ 3 พลังอาสา จังหวัดราชบุรี นวัตกรรมกลไลอาสาสมัคร (อสม., อพม., อสศ.) ลงพื้นที่ฟื้นฟู ดูแลเด็กอย่างใกล้ชิด ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งสุขภาพกาย-ใจ-การคุ้มครองทางสังคม-โอกาสทางการศึกษา”
“นอกจากนี้ ในปี 2566 โครงการ Zero Dropout จะมุ่งเน้นขยายงานการทำงานให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายและทุกพื้นที่ในจังหวัด และเตรียมต่อยอดความช่วยเหลือสู่เด็กนอกระบบ อาทิ การวางหลักสูตร 1 โรงเรียน 3 ระบบ เติมเต็มวิชาการ วิชาชีพ วิชาชีวิต ‘โมเดลพื้นที่ชีวิตเด็กนอกระบบราชบุรี เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายสูงสุดให้เด็กจังหวัดราชบุรี หลุดนอกระบบการศึกษาต้องเป็น “ศูนย์” ภายใน 3 ปีให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายสมัชชา กล่าวสรุป
ติดตามความเคลื่อนไหวของโครงการ ‘Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน’ จากแสนสิริได้ทาง Facebook : Sansiri PLC, https://blog.sansiri.com/zero-dropout-main/ และ #SANSIRI #ZeroDropout #YOUAreMadeForLife
ที่มา: แสนสิริ