หัวใจนักสู้…พิการแค่ร่างกาย แต่ใจเกิน100 เปิดวาร์ป 2 นักกีฬาทีมชาติไทยน้องๆรร.สอนคนตาบอดพระมหาไถ่ฯ
การเล่นกีฬาให้อะไรมากกว่าคำว่า ร่างกายแข็งแรง ช่วยให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ บางคนใช้กีฬาเพื่อช่วยสร้างความมั่นใจเสริมสร้างวินัย ที่สำคัญผู้เล่นได้ฝึกความเป็นน้ำใจนักกีฬาที่ดี ไม่ว่าจะประเภทไหนก็ตาม กีฬาช่วยให้ผู้เล่นรู้จักทุ่มเทไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ใช่แล้ววันนี้เราพูดถึง 2 นักกีฬาทีมชาติไทย จาก รร.สอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาฯ ที่พิการเพียงร่างกาย แต่หัวใจนักสู้เป็นอย่างยิ่ง ทั้ง 2 ใช้ความรักในกีฬามาพัฒนาทักษะสู่การเป็นกีฬาทีมชาติ จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ เป็นแรงกระตุ้นชั้นเยี่ยมที่ผลักดันตนเองสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติที่พิชิตทั้งรางวัลและหัวใจคนไทย…
ทราบกันดีอยู่แล้วว่า โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี นั้นเป็นองค์กรการกุศล ซึ่งจัดการศึกษาและฟื้นฟูพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับนักเรียนตาบอดและตาบอดพิการซ้อน ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น นอกจากนี้ยังได้ขยายโอกาสทางการศึกษาโดยการจัดการศึกษานอกระบบและมีโครงการเรียนรวมในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยนักเรียนทั้งหมดเป็นนักเรียนอยู่ประจำในหอพักของโรงเรียน และโรงเรียนยังได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อพัฒนาศักยภาพของเด็กตาบอดและเด็กตาบอดพิการซ้อนด้วยกระบวนการต่างๆ ในการเตรียมความพร้อมทางด้านความมั่นคงทางอารมณ์ สังคม สติปัญญา ทักษะการดำรงชีวิตอิสระสำหรับคนตาบอด เช่น การดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคล การปฏิบัติกิจวัตรในชีวิตประจำวัน การเคลื่อนไหวและการเดินทาง การอ่าน การเขียนอักษรเบรลล์ นันทนาการ ตลอดจนการส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ในสังคมเพื่อสร้างความภาคภูมิใจและความรู้สึกเป็นสมาชิกของสังคม นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริม การสร้างความเป็นเลิศด้านการกีฬา ดนตรี งานนวดและงานฝีมือ เพื่อเป็นการสร้างความก้าวหน้าในอนาคต โดยนักเรียนผู้เข้ารับบริการไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ
แน่นอนวันนี้เรามี 2 นักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งเป็นนักเรียนที่อยู่ภายใต้การดูแลของโรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ประสบความสำเร็จในด้านกีฬามาเล่าประการณ์และความสำคัญของอาชีพนักกีฬามาฝากกัน…
นายสุกฤษฎิ์ เหมือนปอง หนึ่งในผู้พิการซึ่งเป็นนักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย โดยเป็นตัวแทนรุ่นเยาวชนครั้งแรกไปแข่งในรายการ เอเชียน ยูธ พาราเกมส์ 2019 ณ ประเทศบรูไน โดยสุกฤษฎิ์ ได้เข้ามาเรียนที่โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาฯ ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของโรงเรียนฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 (กศน.) จากจุดเริ่มต้นของการเป็นนักกีฬาว่ายน้ำนั้นสุกฤษฎิ์เล่าว่า “เริ่มจากการลงว่ายน้ำเล่นๆเพื่อความสนุกสนานกับเพื่อนๆ คลายร้อน ในสระน้ำโรงเรียน จุดนี้ทำให้ชอบว่ายน้ำเพราะสนุกดี เลยเริ่มศึกษาและเรียนว่ายน้ำอย่างจริงจังจากครูสอนว่ายน้ำเพื่อช่วยแนะนำการว่ายน้ำที่ถูกต้องและทักษะขั้นต้นต่างๆ เพื่อพัฒนาให้ดียิ่งๆขึ้น
ท่าฟรีสไตล์ เป็นท่าที่ผมชอบมากที่สุด การว่ายน้ำสำหรับผมมันคือความท้าทายกับการได้พัฒนา เวลาที่ลดลงจากการว่ายในท่าต่างๆ ในแต่ละระยะทางเป็นสถิติที่หายเหนื่อย ในปี 2559 ผมเข้าแข่งขันกีฬานักเรียนคนพิการครั้งแรกและได้เหรียญเงิน ในท่าฟรีสไตล์ 50 เมตร ดีใจมาก ภูมิใจที่ตนเองทำได้ ผมผ่านการแข่งขันระดับกีฬานักเรียน กีฬาคนพิการแห่งชาติ และติดทีมชาติรุ่นเยาวชนครั้งแรก เอเชียน ยูธ พาราเกมส์ 2019 ณ ประเทศบรูไน ซึ่งผมจะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น เพื่อเป็นตัวแทนของประเทศไทยในการเข้าร่วมระดับ พาราลิมปิค ต่อไปครับ ขอบคุณโรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยา ฯ ขอบคุณผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทุกท่าน ไม่ว่าจะเป็นครู อาจารย์ พ่อแม่ ผู้ฝึกสอน รวมทั้งกำลังใจจากทุกคนที่คอยสนับสนุนและส่งเสริมให้ผมได้มีโอกาสได้เล่นกีฬานี้ครับ”
นายธนโชติ จะเมรัมย์ นักกีฬาโกลบอล ผมเรียนที่โรงเรียนสอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาฯ ตั้งแต่ พ.ศ. 2553 ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จากจุดเล็กๆ สู่การเป็นนักกีฬาโกลบอล ทีมชาติ ธนโชติเล่าว่า ชอบกีฬาโกลบอลครับ ก่อนอื่นมารู้จักกีฬาโกลบอลกันก่อนครับ คนทั่วๆไปอาจจะไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไรนัก เพราะเป็นกีฬาสำหรับนักกีฬาที่มีความพิการทางสายตา แข่งขันระหว่างทีม 2 ทีม ทีมละ 3 คน ในพื้นที่สนามรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีประตูอยู่ท้ายสนามทั้งสองฝั่ง คล้ายๆกีฬาฟุตบอล แต่นักกีฬาทุกคนในสนามจะต้องปิดตาโดยอุปกรณ์บังตา เพื่อกลิ้งลูกบอลที่มีกระดิ่งอยู่ภายใน ให้เข้าประตูของฝ่ายตรงข้าม สนุกดีครับ
ผมเห็นรุ่นพี่ที่ได้เล่นแล้วติดทีมชาติ จึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้ผมอยากเล่นบ้าง เป็นกีฬาที่เล่นแล้วน่าตื่นเต้นดีครับ ผมเริ่มลงสนามแข่งขันจากการเล่นกีฬาสี กีฬานักเรียน และใน ปี 2560ทีมผมก็ได้เหรียญทองกีฬานักเรียนด้วยครับ หลังจากนั้นก็เริ่มเป็นกีฬาคนพิการแห่งชาติ แม็ตพิเศษ ทีมชาติเยาวชน และทีมชาติชุดใหญ่ ดีใจและภูมิใจมากๆ อยากพัฒนาตนเองให้ดียิ่งๆขึ้นไปให้ก้าวสู่ระดับโลกให้ได้ครับ อยากขอบคุณโรงเรียน คณะครู ครูผู้ฝึกสอน ครอบครัวและทุกท่านมีส่วนทำให้ผมประสบความสำเร็จไม่ว่าด้วยทางตรงหรือทางอ้อม ผมจะไม่หยุดแค่นี้ จะพัฒนาตนเองต่อไปเรื่อยๆ โกลบอลซึ่งเป็นกีฬาที่ผมรักมาก ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้เล่น ได้อยู่กับเพื่อนๆ ในทีมทำให้มีมิตรภาพระหว่างเพื่อนกับโค้ช พร้อมทั้งให้เรามีความรัก ความสามัคคีในทีม ผมพิการแค่ร่างกายแต่หัวใจผมสู้เต็ม100 ครับ
ท่านสามารถดูรายละเอียด รร.สอนคนตาบอดพระมหาไถ่พัทยาฯ เพิ่มเติมได้ที่ [email protected] หรือเว็บไซต์ www.prsb.ac.th
ที่มา: คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์