จุฬาฯ พัฒนาชุดทดสอบเพื่อตรวจหาฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนในสุกร ร่วมลงนาม MOU กับ MSD Animal Health MOU ให้ใช้สิทธิ และการจัดซื้อ Progesterone Test Kit
ศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (Chula UTC) เปิดตัวนวัตกรรมชุดทดสอบเพื่อตรวจหาฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนในสุกร (Progesterone Test Kit) ผลงานการคิดค้นและพัฒนาโดยนักวิจัยคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ภายใต้ความร่วมมือของทีมห้องปฏิบัติการงานวิจัยจากสถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุศาสตร์ และทีมวิจัยและทดสอบภาคสนามในกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรในประเทศไทย สำหรับจำแนกสุกรเพศเมียที่เข่าสู่วัยเจริญพันธุ์ ใช้บ่งบอกการเข้าสู่ระยะการเป็นสัด (ยอมรับการผสมพันธุ์) ทำให้ได้จำนวนสุกรเพิ่มขึ้นและลดต้นทุนในการเลี้ยงสุกรแก่ผู้ประกอบการ
งานแถลงข่าวความร่วมมือนวัตกรรม Progesterone Test Kit และพิธีลงนามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิและการจัดซื้อนวัตกรรมระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกับ MSD Animal Health จัดขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 19 กันยายน 2565 ณ สำนักงานศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม (Chula UTC) โครงการ Block28 โดยมี ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาฯ และ Mr. Hongyao Lin, Regional Marketing Director, MSD Animal Health ร่วมพิธีลงนามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ และพิธีลงนามในสัญญาการจัดซื้อระหว่าง ศ.ดร.ศิริรัตน์ เร่งพิพัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยตามมาตรฐานสากล (QDD center) และ Mr.Hongyao Lin, Regional Marketing Director, MSD Animal Health จากนั้นมีการเสวนาเรื่อง “บทบาทและความสำคัญของพันธมิตรที่ขับเคลื่อนการพัฒนางานนวัตกรรมจากห้องปฏิบัติการสู่ตลาด” โดย ศ.น.สพ.ดร.เผด็จ ธรรมรักษ์ หัวหน้าโครงการวิจัย Progesterone Test Kit หัวหน้าภาควิชาสูติศาสตร์ เธนุเวชวิทยาและวิทยาการสืบพันธุ์ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ศ.ดร.ศิริรัตน์ เร่งพิพัฒน์ ผู้อำนวยการศูนย์ QDD ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ รศ.ดร.กิตตินันท์ โกมลภิส รองผู้อำนวยการศูนย์ QDD สถาบันวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพและวิศวกรรมพันธุศาสตร์ จุฬาฯ และ Mr.Hongyao Lin, Regional Marketing Director, MSD Animal Health
นวัตกรรม “ชุดแถบทดสอบสาหรับตรวจหาฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนในสุกร” (Progesterone Test Kit) เป็นชุดทดสอบเพื่อตรวจหาฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนในสุกรด้วยสารคัดหลั่งหรือซีรั่มจากร่างกาย อาทิ เลือดหรือปัสสาวะในสุกร ช่วยจำแนกสุกรเพศเมียที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์แล้วออกจากสุกรสาวที่เป็นสัดเงียบ ใช้บ่งบอกการเข้าสู่ระยะการเป็นสัด (ยอมรับการผสมพันธุ์) ของสุกรเพศเมีย ทำให้ผู้ประกอบการรู้ได้ทันทีว่าแม่สุกรนั้นตั้งครรภ์จริงหรือไม่
ทั้งนี้ งานวิจัยสู่นวัตกรรมนี้ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากหน่วยบริหารงานและจัดการทุนด้วยการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) และการให้ความช่วยเหลือด้านการเจรจากับภาคธุรกิจ (MSD Animal Health) การให้คำปรึกษาในการจดทะเบียน อย. การยื่นจด IP การทำ Licensing Agreement, การทำสัญญาซื้อขาย รวมถึงให้คำแนะนำในการดำเนินงานนวัตกรรมทางธุรกิจ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (UTC) นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทีมนักวิจัยได้พัฒนาขึ้นมานี้ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากงานวิจัยในห้องปฏิบัติการสู่งานนวัตกรรมเชิงพาณิชย์ และผ่านการรับรองมาตรฐานการผลิต โดยศูนย์พัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยตามมาตรฐานสากล (Qualified Development Diagnostic Center, QDD center) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาฯ เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถาบันการศึกษามีหน้าที่สนับสนุนความรู้ทางวิชาการเพื่อช่วยส่งต่อองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม การได้รับความร่วมมือจาก MSD Animal Health ในการเป็นผู้จัดจำหน่ายโดยเริ่มจำหน่ายที่ประเทศจีนและจะกลับเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการนำงานวิจัยมาต่อยอดสู่การเป็นนวัตกรรมขึ้นห้างที่นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง พร้อมส่งออกจำหน่ายในต่างประเทศทั่วโลก
ด้าน ศ.ดร.เผด็จ ธรรมรักษ์ หัวหน้าโครงการวิจัย Progesterone Test Kit คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า แรงบันดาลใจในการพัฒนาชุดทดสอบนี้มีที่มาจากปัญหาการจำแนกสุกรเพศเมียที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ออกจากสุกรสาวที่เป็นสัดเงียบ และการบ่งบอกการเข้าสู่ระยะการเป็นสัดของสุกรเพศเมีย เดิมทีจะเป็นการสังเกตพฤติกรรมหรืออาการของสุกรโดยผู้มีประสบการณ์ แต่ปัญหาหลักคือ สุกรเพศเมียบางตัวไม่แสดงอาการเป็นสัดเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ หรือแสดงอาการแต่เมื่อผสมพันธุ์แล้วผสมไม่ติด เป็นต้น ทีมวิจัยจึงต้องการตรวจวัดปริมาณฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนในสารคัดหลั่งหรือซีรั่ม เพื่อระบุการเป็นสัดแทนการ สังเกตอาการ เป็นการช่วยเหลือกลุ่มผู้เลี้ยงสุกรในการดูแลและคัดแยกสุกรที่มีความพร้อมการผสมพันธุ์ และชุดตรวจนี้ยังได้ทำการ Blind test ที่ประเทศสเปนโดยได้รับผลการทดสอบที่ดีถึง 95%
“ชุดทดสอบที่พัฒนาขึ้นมานี้มีลักษณะเป็น Strip Test จึงใช้งานง่าย น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ใช้เวลาทดสอบที่รวดเร็วเพียง 15 นาที ให้ผลที่แม่นยำสูงถึง 95% อีกทั้งยังมีราคาไม่แพง เมื่อเทียบกับการตรวจฮอร์โมนโปรเจสเทอโรนในสุกรสาว ด้วยวิธี ELISA Test ที่ใช้ในปัจจุบัน” ศ.ดร.เผด็จ กล่าว
ที่มา: ศูนย์สื่อสารองค์กร จุฬาฯ