ข่าวประชาสัมพันธ์ การประกวดสุนทรพจน์ เนื้อเพลงเกาหลีที่ให้ความหวังและกำลังใจ
ศูนย์การศึกษาเกาหลีประจำประเทศไทย (ผู้อำนวยการ คิมยองจิน) จะจัดการแข่งขัน ‘2022 Korean Speech Contest’ ในวันที่ 20 สิงหาคม ณ โรงแรม The Landmark Bangkok
โดยได้คัดเลือกทีมผู้เข้าแข่งขันที่เข้ารอบทั้งหมด 10 ทีม (แบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษา 6 ทีม และ ระดับอุดมศึกษา 4 ทีม) จากรอบคัดเลือกออนไลน์ที่ดุเดือด มีผู้ส่งคลิปเข้าร่วมประกวดกว่า 320 คน จากโรงเรียนมัธยม 23 แห่ง และ มหาวิทยาลัย 9 แห่ง ทั่วประเทศไทย และการแข่งขันครั้งนี้จะจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด19ทำให้ไม่สามารถจัดงานได้
โดยการแข่งขันนี้จัดเป็นทีมนักเรียน 5-10 คนต่อทีม เข้าร่วมประกวด ในหัวข้อ ‘ความรู้สึกจากบทเพลงเกาหลีที่ให้ความหวังและกำลังใจ’ เพื่อให้ผู้เข้าแข่งขันได้แสดงข้อมูล เรื่องราวและความรู้สึกต่อบทเพลงอย่างหลากหลายและสร้างสรรค์
สำหรับทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศ จะได้รับโอกาสไปทัศนศึกษาที่ประเทศเกาหลีจากเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย และ ในอันดับที่ 2-4 จะได้รับเงินรางวัล 1,500 – 2,500 บาท จากผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาเกาหลีประจำประเทศไทย
ศูนย์การศึกษาเกาหลีประจำประเทศไทยคาดว่าการแข่งขันนี้จะช่วยฟื้นฟู และเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้ผู้เรียนภาษาเกาหลีที่เหนื่อยล้ากับการเรียนออนไลน์ จากบรรยากาศทางสังคมที่หดตัวลงเนื่องด้วยการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 และขยายโอกาสในการเข้าถึงการเรียนรู้ภาษาเกาหลีมากยิ่งขึ้น
ผู้อำนวยการ คิมยองจิน แห่งศูนย์การศึกษาเกาหลีประจำประเทศไทย กล่าวว่า “จากกระบวนการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันประกวดสุนทรพจน์ ผมไม่เพียงมองเห็นทักษะภาษาเกาหลีที่เพิ่มขึ้นของผู้เข้าแข่งขันเท่านั้น แต่ยังเห็นพัฒนาการด้านจิตใจของผู้เข้าประกวดที่เติบโตขึ้นด้วย” “ผมหวังว่าในอนาคตผู้เข้าประกวดจะมีส่วนร่วมในการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างเกาหลีกับไทยให้แน่นแฟ้นขึ้น และเป็นบุคลากรที่มีความสามารถในการพัฒนาประเทศทั้งสองประเทศ”
ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนวิชาภาษาเกาหลีในประเทศไทยในระดับอุดมศึกษา มีทั้งหมด 19 แห่ง โดยในปี พ.ศ. 2564 มีจำนวนนักเรียนที่เรียนภาษาเกาหลีในโรงเรียนมัธยม จำนวน 46,446 คน
ในปี พ.ศ. 2565 การสอบเข้ามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย (PAT) มีนักเรียน 3,770 คนเลือกภาษาเกาหลีเป็นภาษาที่สอง โดยมีจำนวนผู้เข้าสอบภาษาต่างประเทศทั้งหมดเป็นอันดับ 2 (17.55%) รองจากภาษาจีนอีกด้วย
ที่มา: เค.ที.ซี.ซี
