กิจการนักศึกษา SPU 3 วิทยาเขต เตรียมความพร้อม สัมมนาแนวทางพัฒนากิจกรรมบนพื้นฐานการแสดงออกของนักศึกษา 2565
กลุ่มงานกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยศรีปทุม จัดกิจกรรมโครงการสัมมนา “คณะกรรมการบริหารกิจการนักศึกษา ประจำปีการศึกษา 2565” ทั้ง 3 วิทยาเขต (บางเขน,ชลบุรี,ขอนแก่น) โดยมี ผศ.ดร.จรรยา พุคยาภรณ์ รองอธิการบดี และประธานผู้ก่อตั้ง SRIPATUM USR ร่วมใส่ใจรับผิดชอบต่อสังคม เป็นประธานเปิดงานสัมมนา พร้อมทั้งให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ “แนวทางในการดำเนินงานด้านกิจกรรมนักศึกษา ปีการศึกษา 2565” เพื่อร่วมกันระดมความคิดเห็นและวางแผนการดำเนินกิจกรรมตามแผนยุทธศาสตร์ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันสำหรับนักศึกษา
นอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรตจาก คุณพีรนัทธ์ วงศ์สวัสดิ์ (ทนายเพลิง) ที่ปรึกษาประธานและเลขานุการประจำคณะกรรมมาธิการพัฒนาการเมืองการสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ เรื่อง “การแสดงออกทางการเมืองหลังโควิด-19” ณ ห้องสัมมนา เดอะไทด์ รีสอร์ท บางแสน จังหวัดชลบุรี ระหว่างวันที่ 24 – 25 กรกฎาคม 2565
ทั้งนี้ ผศ.ดร.จรรยา พุคยาภรณ์ รองอธิการบดีฯ กล่าวว่า ขอขอบคุณ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษาจากทุกคณะ/วิทยาลัยทั้ง 3 วิทยาเขต (บางเขน,ชลบุรี,ขอนแก่น) ทุกท่าน เพราะหลังจากเกิดการระบาดของโควิด-19 จนถึงวันนี้ เป็นเวลานานมากที่เราไม่ได้พบกัน วันนี้จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราชาวกิจการฯจะได้มาร่วมกันทำงานเพื่อนักศึกษาของเรา ซึ่งที่ผ่านมาช่วงโควิด ชาวกิจการฯก็มีหลายท่านที่ได้ทำงานด้านจิตอาสาก็ดีใจ เพราะยามวิกฤตเราก็มาเป็นจิตอาสาช่วยกัน ยามสงบเราก็กลับมาทำงาน เพื่อนักศึกษา จะเห็นได้ว่ากิจการนักศึกษา SPU ของเราเป็นมากกว่าที่ทุกคนคิด
อีกด้านของการทำกิจกรรม คือการปลูกฝังการมีระเบียบวินัยให้กับนักศึกษา ซึ่งเราควรที่จะเป็นแบบอย่างหรือเป็นต้นน้ำของความดีเหล่านี้ เพื่อส่งต่อหรือถ่ายทอดให้กับนักศึกษาของเรา ถ้าเราร่วมกันทำลูกๆของเรา เมื่อจบออกไปทำงาน การมีระเบียบวินัย ก็จะติดตัวลูกๆ ของเราไปด้วย สุดท้ายที่จะฝากไว้กับพวกเรา คือ Critical Thinking คือ การคิดเชิงวิพากษ์ การคิดและตั้งคำถามกับสิ่งต่าง ๆ อย่างมีวิจารณญาณให้กับนักศึกษาได้เกิดความชัดเจนบนพื้นฐานของเหตุและผล…
ทางด้าน คุณพีรนัทธ์ วงศ์สวัสดิ์ (ทนายเพลิง) ที่ปรึกษาประธานและเลขานุการประจำคณะกรรมมาธิการพัฒนาการเมืองการสื่อสารมวลชนและการมีส่วนร่วมของประชาชน ได้กล่าวว่า การแสดงออกทางความคิดเกี่ยวกับการเมืองในมุมมองของนักศึกษาหรือสถาบันการศึกษาก็ดี เราต้องมีขอบเขตที่ชัดเจน หากนอกเหนือในขอบเขตที่ตั้งไว้ อาทิ นักศึกษาแสดงความคิดเห็นเกินขอบเขตอาจก่อให้เกิดความรุนแรงส่งผลกระทบกับสถาบันได้ ทางสถาบันก็ควรมีมาตรการป้องกันและตั้งรับ เพื่ออธิบายให้กับสังคมและประชาชนรับทราบข้อเท็จจริงด้วยหลักฐานไม่ว่าจะเป็นเอกสารกฎระเบียบข้อห้ามที่ออกจากทางสถาบันชี้แจงให้เร็วที่สุด เพื่อแสดงความบริสุทธิ์และจุดยื่นของสถาบันให้ชัดเจน เช่นเดียวกันกับเรื่อง กัญชา แม้ว่าวันนี้รัฐบาลประกาศยกเว้น แต่คำว่า กัญชา ในอดีตคือ สิ่งเสพติดที่ร้ายแรง ทางสถาบันเองก็ควรที่จะออกกฎระเบียบข้อบังคับประกาศภายในให้กับนักศึกษาทราบด้วยเช่นกัน ต้องขอขอบคุณทางมหาวิทยาลัยศรีปทุมที่ให้โอกาสมาร่วมแบ่งบันความรู้และความคิดเห็นกันในวันนี้…
ที่มา: มหาวิทยาลัยศรีปทุม