กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดตัวโครงการการศึกษาระยะยาว ‘TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส’ ช่วยทั้งครูและนักเรียน มุ่งสร้างอนาคตสังคมไทยที่แข็งแกร่ง
กลุ่มธุรกิจ TCP ร่วมลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในสังคมไทยอย่างยั่งยืน ผนึกกำลังพันธมิตรทางการศึกษาที่หลากหลาย เปิดตัวโครงการ ‘TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส’ โครงการระยะยาว 5 ปีด้านการศึกษา มุ่งช่วยทั้งครูและนักเรียนให้ได้เพิ่มโอกาสในการเพิ่มศักยภาพตัวเอง เพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้และการทำงานในโลกอนาคต อันเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างยั่งยืนพร้อมขับเคลื่อนประเทศไทย ประกาศเชิญชวนพันธมิตรทางการศึกษาที่มีนวัตกรรมการศึกษาหลากหลายมาร่วมโครงการ
‘TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส’ มีระยะเวลา 5 ปี จุดเด่นคือมุ่งลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา โดยทำงานกับทั้งครูและนักเรียนผ่านทางการร่วมมือกับพันธมิตรทางการศึกษาที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์การศึกษาแห่งอนาคต สร้างเครื่องมือทางการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ครูและนักเรียนสามารถสร้างสรรค์กระบวนการเรียนการสอนที่มีความหมายและมีความสุข รวมถึงสร้างโอกาสให้นักเรียนที่ขาดแคลน ปัจจุบันมีพันธมิตรเริ่มต้นในสองโครงการ ได้แก่ โครงการดูแลพัฒนาศักยภาพครู ‘โรงเรียนปล่อยแสง’ ที่ร่วมมือกับคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และโครงการ ‘ทุนสานฝันการศึกษาเพื่อน้อง’ ที่ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา สนับสนุนการสร้างระบบหลักประกันโอกาสทางการศึกษา ผ่านการมอบทุนการศึกษาแก่เยาวชนช่วงชั้นรอยต่อเพื่อไม่ให้หลุดจากระบบการศึกษา นอกจากนี้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กลุ่มธุรกิจ TCP ผนึกกำลังกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เร่งให้ความช่วยเหลือดูแลสุขภาพและการศึกษาให้กับเด็กกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผ่านโครงการกลไกอาสาสมัครคุณภาพอย่างเร่งด่วน
“วิกฤตโควิด-19 เป็นตัวเร่งให้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษารุนแรงมากขึ้น ด้วยเหตุนี้เอง กลุ่มธุรกิจ TCP จึงริเริ่มโครงการระยะยาว 5 ปี ‘TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส’ เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ซึ่งโครงการดังกล่าวดำเนินงานตามกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กร ที่ประกอบด้วย 3 เสาหลักคือ Integrity, Quality และ Harmony โครงการ ‘TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส’ สอดคล้องกับเสาหลักด้าน Harmony ที่มุ่งสร้างชุมชนยั่งยืนผ่านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชนในด้านต่างๆ ให้ดีขึ้น” นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP กล่าวเสริมว่า ” ‘TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส’ มีจุดเด่นด้านการเพิ่มโอกาสทางการศึกษาและสนับสนุนการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพให้ทั้งครูและนักเรียนเกิดความเชื่อมโยงกับสังคมในปัจจุบัน สร้างนวัตกรรมการศึกษาหลากหลาย เพิ่มพื้นที่การเรียนรู้และสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อร่วมขับเคลื่อนเปลี่ยนแปลงการศึกษาอย่างยั่งยืน”
รศ.ดร.อนุชาติ พวงสำลี คณบดีคณะวิทยาการเรียนรู้และศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า “โครงการโรงเรียนปล่อยแสงมุ่งเน้นการทำงานกับครู เพราะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทั้งหลักสูตรการเรียนการสอนและจะส่งผลต่อผู้เรียนอย่างจริงจัง โดยให้ความสำคัญกับการเตรียมพร้อมกำลังคน รวมถึงการพัฒนาเนื้อหาหลักสูตรและสื่อการเรียนการสอนภายใต้แนวคิดการศึกษาฐานสมรรถนะ ซึ่งช่วยให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้จริงในชีวิตประจำวัน สอดคล้องกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต รวมถึงเชื่อมโยงการเรียนรู้เข้ากับชุมชนและสังคม โดยจะเริ่มจาก 12 โรงเรียนนำร่อง ซึ่งครูที่ผ่านกระบวนการนี้จะสามารถสร้างสรรค์การเรียนรู้แบบใหม่ และจะช่วยวางรากฐานของการศึกษาที่มีความหมายและมีความสุขต่อไป”
ด้าน ดร. ไกรยส ภัทราวาท รองผู้จัดการกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) ให้ความเห็นว่า “หนึ่งในหมุดหมายการพัฒนาประเทศที่สำคัญสำหรับประเทศไทยในยุค COVID-19 คือการรักษาเด็กเยาวชนทุกคนให้สำเร็จการศึกษาภาคบังคับ และมีโอกาสที่เสมอภาคในการพัฒนาเต็มศักยภาพและความถนัดเป็นรายบุคคล อย่างไรก็ตามโควิด-19 ได้ทำให้สถานการณ์การหลุดนอกระบบการศึกษามีแนวโน้มวิกฤตขึ้น เด็กนักเรียนกว่า 43,000 คนได้หลุดออกจากระบบการศึกษา และหากประมาณการจากข้อมูลนักเรียนยากจนและยากจนพิเศษ จะมีเด็กๆ ถึง 1.9 ล้านคนที่กำลังเผชิญความเสี่ยงเดียวกัน ทั้งที่เด็กไทยมีศักยภาพสูง โครงการทุนสานฝันการศึกษาเพื่อน้องที่ กสศ. ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจ TCP จะช่วยสร้างหลักประกันทางการศึกษาเพื่อไม่ให้มีเด็กหลุดออกจากระบบการศึกษาไทยเพิ่มขึ้น พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กๆ กลับมามีความฝันในชีวิตอีกครั้ง ซึ่งเราจะมอบทุนตลอดหนึ่งปีการศึกษาให้กับนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ถึงประกาศนียบัตรวิชาชีพปี 1 จำนวน 400 คนในกว่า 40 จังหวัดทั่วประเทศ โดยโครงการฯ ยังมีการใช้ฐานข้อมูลเพื่อระบุเด็กกลุ่มเสี่ยง และมีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาตั้งแต่แรกเริ่ม”
ทั้งนี้ ‘โครงการ TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส’ วางกรอบการพัฒนาด้านการศึกษาไว้ 3 ด้าน เพื่อพิจารณารับพันธมิตร คือ
- ส่งเสริมวิชาการและความรู้แกนกลางในห้องเรียนอย่างสร้างสรรค์ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสม
- ส่งเสริมสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นต่อชีวิตด้วยกระบวนการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน รวมถึงพัฒนาศักยภาพให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปต่อยอดเป็นอาชีพจริงได้ในอนาคต
- สร้างระบบนิเวศการเรียนรู้ที่สัมพันธ์เชื่อมโยงทั้ง ครู นักเรียน ผู้ปกครอง โรงเรียน บ้าน และชุมชน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาศักยภาพและการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับพื้นที่ของตน
‘โครงการ TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส’ เป็นโครงการศึกษาระยะยาวที่กลุ่มธุรกิจ TCP เปิดกว้างพร้อมรับพันธมิตรเพิ่มเติมภายใต้เป้าหมายเดียวกัน คือลดความเหลื่อมล้ำด้านการศึกษา เพื่อสร้างครูและนักเรียนให้มีความรู้และทักษะที่จำเป็น และพร้อมรับกับโลกในอนาคต สามารถติดต่อนำเสนอโครงการกับกลุ่มธุรกิจ TCP ได้ทางอีเมล [email protected]
ทั้งนี้ ‘โครงการ TCP ปลุกความรู้สู่โอกาส’ วางเป้าหมายตลอดระยะ 5 ปีของโครงการ โดยจะมีครูที่ได้รับการเพิ่มทักษะรวม 500 คน มีนักเรียนที่เข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพรวม 100,000 คน โรงเรียนที่ได้รับประโยชน์ 100 แห่ง และสร้างการมีส่วนร่วมกับ 100 ชุมชนหรือพื้นที่การเรียนรู้ โดยการสร้างสรรค์การศึกษาที่มีประสิทธิภาพถือเป็นการวางรากฐานที่สำคัญในการสร้างทรัพยากรมนุษย์ที่มีศักยภาพ ซึ่งจะเป็นพลังในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศต่อไปอย่างยั่งยืน ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับเป้าหมายใหม่ของกลุ่มธุรกิจ TCP ในการ ‘ปลุกพลัง เพื่อวันที่ดีกว่า’
ที่มา: ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์ ประเทศไทย