ม.หอการค้าไทย ชูแนวคิด MBA FAMILY ปรับหลักสูตรทันยุคสมัย
หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ตอกย้ำความเป็นผู้นำหลักสูตร MBA ในประเทศไทย โดยเปิดสอนมากว่า 30 ปี มุ่งพัฒนาความรู้ด้านบริหาร การตลาด และการจัดการอย่างต่อเนื่อง และการเชื่อมโยงกับเครือข่ายภาคธุรกิจจริง เพื่อให้ผู้เรียนสามารถนำความรู้ไปใช้ต่อยอดในธุรกิจของตัวเอง
อีกทั้งยังมีความพร้อมในด้านของสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย และเครือข่ายเพื่อนจากทั่วประเทศ ให้ความอบอุ่นเสมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน นอกจากนั้น ที่นี่ยังเน้นที่จะผลิตและพัฒนาบุคลาการด้านการบริหารธุรกิจให้มีคุณภาพในระดับสูง ที่มีความพร้อมทางทักษะวิชาการและการลงมือปฏิบัติ ช่วยพัฒนาภาคธุรกิจของประเทศให้ก้าวต่อไปข้างหน้า ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
อาจารย์ ดร. พีรพงษ์ ฟูศิริ ผู้อำนวยการหลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA) มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้เปิดเผยว่า ปัจจุบันหลักสูตร MBA ของมหาวิทยาลัยฯ ได้มีการปรับตัวอย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว โดยผู้เรียนต้องได้รับประสบการณ์จริง พร้อมทั้งสามารถนำความรู้ออกไปต่อยอดในการสร้างธุรกิจให้เป็นของตนเองได้ทันที หรือเป็นผู้ประกอบการได้อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยการนำแนวคิด “MBA Family” เข้ามาใช้ เพื่อเป็นการสร้างความน่าสนใจ สร้างเครือข่าย และสร้างความแตกต่างให้กับนักศึกษาได้จริง
สำหรับนักศึกษาหลักสูตร MBA นั้นส่วนใหญ่จะมีอายุอยู่ที่ระหว่าง 28-35 ปี ทางหลักสูตรจะสร้างความแตกต่างด้วยการจัดกลุ่มของนักศึกษาผ่านโปรไฟล์ของนักศึกษา ทั้งนี้เพื่อที่จะออกแบบหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการนักศึกษาให้ได้มากที่สุด รวมไปถึงเพื่อเป็นการดึงศักยภาพของนักศึกษาให้ออกมามากที่สุด ซึ่งในแต่ละปีนั้น หลักสูตร MBA ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจะมีนักศึกษาสมัครเข้าเรียนอยู่ที่ประมาณ 200-300 คน
สำหรับแนวคิด “MBA Family” มีจุดเด่น 3 หลักการใหญ่ๆ
- ตัวอาจารย์ผู้สอนหรือวิทยากรผู้ให้ความรู้ จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญจริง และตรงกับกระแสของสถานการณ์การตลาดในยุคปัจจุบัน
- การให้บริการของบัณฑิตวิทยาลัย ที่ให้บริการแบบไม่มีวันหยุดนักศึกษาสามารถเข้ามาติดต่อ หรือขอความช่วยเหลือได้โดยไม่มีวันหยุด ซึ่งจะทำให้นักศึกษาได้รับการบริการอย่างเต็มที่ และแก้ปัญหาได้ทันท่วงที
- การออกแบบห้องเรียนที่เน้นความใกล้ชิดระหว่างวิทยากร และนักศึกษา โดยคำนึงถึงความสะดวกในเรียน ไม่มีการบังกันในเวลาเรียน นักศึกษาสามารถโฟกัส การเรียนได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้เพื่อเป็นการสร้างความใกล้ชิด และสร้างประสบการณ์ร่วมกันในระหว่างเรียน
นอกจากนี้แนวคิด “MBA Family” ยังได้รวมไปถึงการให้นักศึกษาได้ออกไปศึกษาดูงานจริงเพื่อเป็นการปูพื้นฐานสำหรับการสร้างธุรกิจ หรือนำไปปรับใช้สำหรับผู้ที่มีธุรกิจเป็นของตนเองเองอยู่แล้ว หลังจากนั้นจึงให้นักศึกษาได้ทำโปรเจคเพื่อเป็นการต่อยอดจากการไปดูงานออกมาให้เป็นผลงานจริง ในส่วนของทฤษฎี หลักสูตรใช้ตำราจากต่างประเทศถึง 90% เพื่อให้ได้ความรู้ที่ทันสมัยล่าสุด เป็นการตอกย้ำเรื่องของเนื้อหาวิชาการสอนที่มีประสิทธิภาพสูง
อีกหนึ่งจุดเด่นของหลักสูตร MBA มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คือการสามารถเลือกเรียนรายวิชาต่างสาขาที่ตนเองสนใจได้ด้วย ซึ่งสามารถเลือกได้ตามความต้องการของตนเอง อีกทั้งในแต่ละปีหลักสูตรให้งบประมาณในการจัดกิจกรรมให้แก่นักศึกษาอย่างเต็มที่ สูงถึง 9-10 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในกิจกรรมของนักศึกษาในหลักสูตร แสดงให้เห็นว่าทางหลักสูตรมีการวางแผนและออกแบบให้กิจกรรมเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญสำหรับนักศึกษาทุกคน
สำหรับหลักสูตร MBA เราแบ่งการเรียนการสอนเป็น 3 แบบเพื่อให้สอดคล้องกับเวลาการเรียนของนักศึกษา โดยนักศึกษาสามารถเลือกเรียนได้ ได้แก่ เรียนวันเสาร์วันเดียว/ วันอาทิตย์วันเดียว/ หรือเรียนแบบ Full time วันธรรมดา มีให้เลือก 5 สาขาวิชา และสามารถเลือกเรียนวิชาต่างสาขาได้ด้วย 1 วิชา พร้อมทั้งยังได้เข้าร่วมเป็น MBA Citizen มีกิจกรรมพบปะสังสรรค์เพื่อให้ได้เครือข่ายรู้จักกัน ระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบัน เพื่อตอกย้ำความเป็น MBA Family อีกด้วย อาจารย์ ดร. พีรพงษ์ฯ กล่าวทิ้งท้าย
หลักสูตร MBA มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กำลังเปิดรับสมัครแล้ววันนี้ สนใจดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสมัครเรียนได้ทาง https://gs.utcc.ac.th สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร 095-3675512 หรือ 02-6976881-6
ที่มา: มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย