นศ.บริหารการตลาดหอการค้าไทยไม่หยุดเสริมทักษะธุรกิจสู้โควิด ประกวดแผนออนไลน์สร้างประสบการณ์จริง
สถานการณ์ภาวะวิกฤตโรคระบาดไวรัสโควิด – 19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลกและประเทศไทย ทำให้สถาบันการศึกษาต้องสั่งปิดการเรียนการสอนที่มหาวิทยาลัยอย่างไม่มีกำหนด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้ปรับรูปแบบการเรียนการสอนสู่รูปแบบออนไลน์อย่างเต็มระบบ คณะบริหารธุรกิจและอาจารย์มีความมุ่งมั่นและตั้งใจให้นักศึกษาเสริมศักยภาพตนเองอย่างต่อเนื่องถึงแม้จะไม่มีการเรียนในมหาวิทยาลัย สนับสนุนให้นักศึกษาเรียนรู้จากภาคสนามจริงผ่านการประกวดเวทีออนไลน์ต่างๆ ทำให้นักศึกษาเรียนรู้ความผิดพลาดจากการทำงานและการทำแผนธุรกิจให้กับลูกค้าในรูปแบบธุรกิจจริง เพื่อสร้างบัณฑิตที่มีคุณภาพตอบโจทย์ภาคอุตสาหกรรมธุรกิจและบริการ
นายศิริมงคล ครองสินเสาวภาค , นายธีระพงษ์ บุญจันทร์ , นายจิรานุวัฒน์ รัตนะโสภา , นางสาวสุชาวดี สงชุม และนายพุฒิเมธ จุฬพุฒิพงษ์ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เล่าว่า “ทีมพวกเราได้เข้าร่วมงานประกวดครั้งนี้เป็นการประกวดโครงการของ U Power Digital Idea Challenge ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่จัดขึ้นเพื่อประกวดแผนการตลาด โดยใช้สื่อดิจิทัลออนไลน์เพื่อทำโจทย์แผนการตลาดของสินค้าและบริการจากหลากหลายอุตสาหกรรม ซึ่งปีนี้เป็นการแข่งขันผ่านระบบออนไลน์ เพื่อป้องกันไวรัสโควิด – 19 การเตรียมตัวการแข่งขันครั้งนี้ค่อนข้างกระชั้นชิดกับเวลาส่งผลงาน ทำให้มีเวลาเตรียมตัวก่อนการแข่งขันไม่มากเท่าไร แต่ก็ตั้งใจมากและทำอย่างเต็มที่ ดังนั้น เมื่อทางทีมได้รับโจทย์ จึและงประชุมผ่านระบบออนไลน์รีบวางแผนดำเนินงานทันที พร้อมสัมภาษณ์เพื่อหาข้อมูลเบื้องต้น รวมถึงเตรียมเนื้อหา (Contents) ที่จะนำเสนอในการประกวดครั้งนี้ ทีมพวกเรานำความรู้ที่เรียนในห้องเรียนมาประยุกต์ใช้แบบเต็มรูปแบบ ที่สำคัญบางหัวข้อที่ใส่ไปตอนส่งรายงาน ยังเป็นหัวข้อเดียวกับที่กำลังศึกษาอยู่ในปัจจุบัน ทำให้ค่อนข้างสามารถตอบโจทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญในสาขาการตลาด อาจารย์ของคณะหลายๆท่าน มีการปรึกษาและให้คำแนะนำอยู่ตลอดในเวลาที่เราศึกษากับท่าน ทำให้ทีมได้นำข้อแนะนำต่างๆ เหล่านี้มาประยุกต์ใช้ได้จริง”
“ตอนนี้ทีมเราผ่านเข้ารอบ 2 จะได้รับ งบประมาณ 20,000 บาท สำหรับการทำแผนการตลาด ระหว่างการแข่งขันได้พบปัญหาเยอะมาก ซึ่งตอนที่เราเริ่มทำต้องมีการจัดสรรเวลา แต่ผมก็แก้ไขด้วยวิธีที่ค่อนข้างโหดร้ายกับตัวเองรวมถึงคนในกลุ่ม พูดได้ง่ายๆว่า ทางทีมนอนน้อยมาก เพื่อจะได้มีเวลาทำงานกันอย่างเต็มที่ แม้กระทั่งวันสุดท้ายก่อนส่งรายงานให้กับทางโครงการ ทีมใช้เวลาอย่างคุ้มค่าทุกวินาทีในการดำเนินงาน จุดแข็งของทีม คือ ทุกคนในทีมค่อนข้างมีสไตล์การทำงานที่เข้ากันได้ดี มีทัศนคติเดียวกัน ทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น รวมถึงสมาชิกในทีมมีความโดดเด่นของตนเองในการทำหน้าที่แต่ละหน้าที่ที่มีการมอบหมายให้แต่ละคน ตอนนี้ยังไม่ถึงวันประกาศผลชนะเลิศอย่างเป็นทางการ ผมสามารถบอกได้คำเดียวว่าประสบการณ์จากการประกวดในครั้งนี้คุ้มค่ามาก ผมจะไม่มีวันลืมความทรงจำเหล่านี้เลย เพราะนี่คือครั้งแรกที่รู้สึกว่าเราได้ทำงานจริงๆ ต้องมีความรับผิดชอบแบบจริงจัง แต่โชคดีเพราะที่ผ่านมา อาจารย์หลายๆท่านในมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คอยเตือนและคอยฝึกให้ได้ทดลองทำอยู่ตลอดเวลา สิ่งเหล่านี้ผมจะนำไปต่อยอดให้กับตัวเองในอนาคตรวมถึงนำประสบการณ์มาพัฒนาให้ตัวเองมีศักยภาพทางธุรกิจมากขึ้น” นายศิริมงคล ครองสินเสาวภาค หัวหน้ากลุ่ม กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย