สคช. ติดปีกอาชีวะสร้างชาติ จัด MOU สถาบันการอาชีวศึกษา 19 แห่งทั่วประเทศ ร่วมพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษาสู่ความเป็นมืออาชีพ
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. จับมือสถาบันการชีวศึกษา 19 แห่งทั่วประเทศ จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การยกระดับมาตรฐานบุคลากรด้านการอาชีวศึกษาสู่ความเป็นมืออาชีพ” ผ่านระบบคอนเฟอเรนซ์ มีนายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนายสุเทพ แก่งสันเทียะ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานในพิธี ท่ามกลางสักขีพยานจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำโดยนางสาววรชนาธิป จันทนู และนางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และผู้บริหารจากสถาบันการอาชีวศึกษาทั้ง 19 แห่ง
นายนคร กล่าวว่าเป็นความร่วมมือครั้งแรกผ่านระบบออนไลน์ที่มีผู้เข้าร่วมลงนามมากถึง 19 แห่งจากทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการขับเคลื่อน พัฒนาบุคลากรด้านอาชีวศึกษา ซึ่งถือเป็นขุมกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ และยังเป็นที่ต้องการของตลาดแรงงาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพพร้อมที่จะบูรณาการการทำงานร่วมกันติดปีกให้การรับรองกำลังคนอาชีวศึกษาเพื่อให้มีการพัฒนาทักษะ ศักยภาพการทำงานได้ตอบโจทย์ผู้ประกอบการ และตรงตามมาตรฐานที่สากลให้การยอมรับ
ด้านนายสุเทพ กล่าวย้ำเจตนารมณ์ความร่วมมือครั้งนี้ว่า เมื่อรวมการทำความร่วมมือกับ สคช. ที่เกิดขึ้นไปแล้วก่อนหน้า เท่ากับว่าอาชีวศึกษาทั้ง 23 แห่งทั่วประเทศ ได้มีความร่วมมือกับ สคช. ครบทุกแห่งทั่วประเทศแล้ว นับเป็นจุดเริ่มต้นในการเติมเต็มและพัฒนาศักยภาพบุคลากรอาชีวศึกษา ที่ไม่เพียงสามารถนำมาตรฐานอาชีพมาใช้ปรับปรุง พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้สอดคล้องความต้องการของตลาดแรงงานแล้ว สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ยังมีส่วนสำคัญที่จะช่วยการันตีว่าบุคคลที่เข้ามาศึกษา อบรมอาชีพ ตลอดจนบุคลากรของสถาบันการอาชีวศึกษาทั่วประเทศ จะเป็นผู้ที่มีความสามารถ เป็นไปตามมาตรฐานอาชีพที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
สำหรับความร่วมมือ “การยกระดับมาตรฐานบุคลากรด้านการอาชีวศึกษาสู่ความเป็นมืออาชีพ” สคช. และสถาบันการอาชีวศึกษาทั้ง 19 แห่ง ตั้งเป้าสนับสนุนให้มีการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอน หลักสูตรฝึกอบรม และส่งเสริมสนับสนุนการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อสร้างโอกาสและพัฒนาศักยภาพ เสริมสร้างขีดความสามารถในการทำงานและการแข่งขันอย่างมืออาชีพ อาทิ สาขาวิชาบริการยานยนต์ สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผังเมือง สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมดิจิทัล สาขาวิชาชีพการเงินและประกันภัย อาชีพผู้ปฏิบัติงานด้านบัญชี และ สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร สาขาผู้ประกอบอาหาร รวมไปถึงสาขาอาชีพเกี่ยวกับธุรกิจจัดดอกไม้ ซึ่งจะส่งผลต่อการผลิตกำลังคนรองรับความต้องการของตลาดแรงงานต่อไป
ที่มา: เก็ทไอเดีย มีเดีย พลัส